(1 กันยายน 2563) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล พร้อมด้วยพรรคร่วมรัฐบาล ไดเข้ายื่นญัตติ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยการเสนอแก้ไขมาตรา 256 ของวิปรัฐบาล ในวาระแรกขั้นรับหลักการ จะต้องขานมติแบบเปิดเผย และต้องมีคะแนนเห็นชอบไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของสมาชิกทั้ง 2 สภาฯ และในวาระที่ 2 ให้ถือเสียงข้างมากเป็นประมาณ และหากเห็นร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอแก้ไขโดยประชาชน จะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าชื่อกัน แสดงความคิดเห็นด้วย และเมื่อพิจารณาวาระที่ 2 แล้วเสร็จให้รอไว้ 15 วัน ก่อนลงมติวาระที่ 3 ซึ่งการลงมติในวาระที่ 3 จะต้องขานมติแบบเปิดเผย และจะต้องมีเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้เสนอให้เพิ่มในหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดให้มี สสร. จำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ตามสัดส่วนจังหวัด 150 คน และมาจากการเลือกทางอ้อม 50 คน
ทั้งนี้ แบ่งเป็น สสร. ที่รัฐสภาคัดเลือก 20 คน ที่ประชุมอธิการบดีฯ เลือก 10 คน จากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน และด้านรัฐศาสตร์-รัฐประศาสนศาสตร์ และอีก 10 คนจากผู้มีประสบการณ์ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน และการร่างรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกนิสิตนักศึกษา จำนวน 10 คน
สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็น สสร.นั้น จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และจะต้องมีคุณสมบัติเทียบเท่าผู้สมัคร ส.ส. ยกเว้น สามารถถือครองหุ้นสื่อมวลชนได้ พ้นโทษจำคุกไม่ถึง 10 ปี หรือพ้นตำแหน่ง ส.ว.มาไม่ถึง 2 ปี ก็สามารถเข้ารับการเลือกตั้งได้ และไม่ห้ามผู้สมัคร ที่เคยลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. มาสมัครเป็น สสร.ได้ ซึ่งการเลือกตั้ง สสร. โดย กกต.จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน หลังรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขมีผลใช้บังคับ
ส่วนขั้นตอนการยกร่างรัฐธรรมนูญของ สสร. จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน นับแต่วันที่มีการประชุม สสร. นัดแรก โดยการสิ้นอายุของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ผูกพันกับสถานะ สสร. ซึ่งการแก้ไขในหมวด 1 และ 2 ของรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถกระทำได้ มิเช่นนั้น ร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างจะเป็นอันตกไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อ สสร. เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ให้ส่งรัฐสภาพิจารณาขานมติให้ความเห็นชอบโดยเปิดเผย ซึ่งจะต้องมีมติไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้ง 2 สภา เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ให้ประธานรัฐสภานำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากรัฐสภา ไม่ให้ความเห็นชอบ ให้ประธานรัฐสภาส่งร่างรัฐธรรมนูญ ไปยัง กกต. เพื่อจัดประชามติขอความเห็นจากประชาชน ภายใน 45-60 วัน
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า หากประชาชนให้ความเห็นชอบ ให้ประธานรัฐสภานำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากไม่เห็นชอบ ให้ร่างรัฐธรรมนูญ พร้อม สสร.นั้น เป็นอันตกไป โดยครม. หรือ ส.ส. ส.ว. หรือ ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 สามารถเสนอญัตติต่อรัฐสภา เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ ซึ่งผู้ที่เคยเป็น สสร. แล้ว จะเป็น สสร.อีกไม่ได้