"เทพไท"ขอทำหน้าที่จนกว่าศาลรธน.มีคำวินิจฉัย

(1 กันยายน 2563) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. หลังศาลนครศรีธรรมราชตัดสินพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ถือเป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความคลุมเครือไม่ชัดเจนเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. จึงควรให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย

นายเทพไท กล่าวย้ำว่า ส่วนตัวมีคุณสมบัติครบถ้วนก่อนมาสมัครเป็น ส.ส. จึงมองว่าคุณสมบัติที่ขาดหลังจากเป็น ส.ส. ไม่ควรจะบังคับย้อนหลัง โดยระหว่างนี้ ก็จะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร แต่คงจะไม่ใช้สิทธิหรือประโยชน์ใดๆ ของการเป็น ส.ส. จากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หากว่ามีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ ก็คงจะใช้เงินส่วนตัวในการทำงานทั้งหมด เพียงแต่ว่าจะขอใช้สิทธิ์ความเป็น ส.ส.เพื่อทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์

ส่วนภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะทีมกฎหมายก็ยังเห็นแตกต่างกันอยู่ เพราะหลายคนมองว่ากฎหมายไม่สามารถบังคับย้อนหลังได้ และขอย้ำว่าตอนสมัครรับเลือกตั้ง ตนมีคุณลักษณะครบถ้วนในการเป็น ส.ส. และมองว่าไม่มีบทบัญญัติให้พ้นจากตำแหน่ง จึงขอให้ย้อนกลับไปดูคุณสมบัติก่อนสมัครรับเลือกตั้งมาเทียบเคียง ซึ่งนักกฎหมายบางคนถือว่าเป็นการใช้กฎหมายย้อนหลังที่เป็นโทษ ซึ่งจะไม่สามารถบังคับใช้ได้ จึงควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยย้อนหลัง

ขณะที่ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวให้กำลังใจนายเทพไท ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทสร้างสีสันในสภาฯ เคยเป็นถึงอดีตนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงรู้สึกเสียดายในฐานะรุ่นพี่ โดยจะไปพบนายเทพไทเพื่อให้กำลังใจ