ออสเตรเลียทุบสถิติโควิด-19 เสียชีวิตวันเดียว 41 ราย

รัฐวิกตอเรียที่เป็นศูนย์กลางระบาดหลักในขณะนี้ เปิดเผยวันนี้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 41 ราย ซึ่ง 22 รายมาจากบ้านพักคนชราในช่วงหลายสัปดาห์นี้จนถึงวันที่ 27 ส.ค.
ตัวเลขดังกล่าวเป็นสถิติสูงสุดของประเทศครั้งใหม่หลังจากมีรายงานผู้เสียชีวิต 25 รายเมื่อวันที่ 25 ส.ค.

ขณะที่รัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 73 คนในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.โดยเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นาน 4 สัปดาห์แล้วจากที่กำหนดไว้ 6 สัปดาห์

ปัจจุบันออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 26,000 คน และผู้เสียชีวิต 652 ราย

แดเนียล แอนดรูว์ส ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า กำลังวางมาตรการควบคุมทางสังคมที่จะบังคับใช้เมื่อมีการเปิดเศรษฐกิจ หลังครบกำหนดสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ในเมืองเมลเบิร์นในวันที่ 13 ก.ย. โดยคาดว่าจะเปิดเผยโรดแมปได้ในวันที่ 6 ก.ย. และตัวเลขผู้ติดเชื้ออีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับการวางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำมากๆจนไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ภายในอีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า
เขาระบุอีกว่า การอนุญาตให้อุตสาหกรรมส่วนใหญ่กลับมาเปิดได้อีกครั้ง จำเป็นต้องมั่้นใจได้ว่า จะมีการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากในที่ทำงานตลอดเวลา การใช้ชุด PPE ในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง การรักษาสุขอนามัยในสถานที่ทำงาน เป็นต้น

และแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดต่ำกว่า 100 คนเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนเมื่อวันเสาร์ แต่ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย มองว่า ตัวเลขยังสูงเกินกว่าจะผ่อนคลายล็อกดาวน์ในเมลเบิร์นสู่ระดับ 3 และชาวเมลเบิร์นกังวลว่าอาจมีการขยายเวลาล็อกดาวน์ระดับ 4 ออกไปอีก นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เตือนด้วยว่า ยังยากที่จะยกเลิกล็อกดาวน์ระดับ 4 ในอีก 2 สัปดาห์ได้ และคาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในวันเดียวควรอยู่ที่ระดับ 40-50 คนภายในสิ้นสัปดาห์นี้ จึงจะสามารถเปิดเผยโรดแมปผ่อนคลายล็อกดาวน์ได้