ชายผิวสีถูกตำรวจยิงในสหรัฐกลายเป็นอัมพาต

ทนายความพร้อมด้วยครอบครัวของเบลค เปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อวันอังคารว่า เบลค วัย 29 ปีเข้ารับการผ่าตัดเมื่อช่วงบ่าย หรือสองวันหลังจากตำรวจในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน ลั่นกระสุนใส่เขาในระยะเผาขนขณะเปิดประตูรถเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีลูกชาย 3 คน วัย 3 ขวบ, 5 ขวบ และ 8 ขวบอยู่ภายในรถ และเห็นพ่อถูกยิงต่อหน้าต่อตา และจนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ให้เหตุผลที่ยิงเขาถึง 7 นัดที่หลัง
พ่อของเบลค บอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามฆาตกรรมอย่างไร้เหตุผล "พวกเขายิงลูกชายผมถึง 7 นัด...7 นัดเหมือนกับว่าเขาไม่สำคัญ แต่ลูกชายผมสำคัญ เขาเป็นมนุษย์และเขาสำคัญ"

ทนายเปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของเบลคด้วยว่า เขามีรอยกระสุนที่แขนข้างหนึ่งส่วนไต ตับ และไขสันหลังฉีกขาด กระสุนอย่างน้อย 1 นัดทะลุไขสันหลัง และกระดูกไขสันหลังแตกทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไปและอาจเดินไม่ได้ถาวร นอกจากนี้ยังมีรอยกระสุนที่ท้อง ต้องถูกตัดลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็กออกเกือบทั้งหมด และคงต้องอาศัยปาฏิหารย์ถึงจะทำให้เบลคกลับมาเดินได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ทนายอีกคน บอกด้วยว่า ทางครอบครัวจะยื่นฟ้องคดีแแพ่งเอาผิดกับตำรวจเมืองเคโนชา เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษทัณฑ์สำหรับการกระทำที่ไม่เป็นธรรม และเงินชดเชยที่ได้จากการฟ้องร้องจะใช้สำหรับการฟื้นฟูสภาพร่างกายของเบลค
แม่ของเบลค บอกด้วยว่า ลูกชายกำลังต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ แต่หากเขารับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นตามมา ทั้งความรุนแรงและความเสียหาย เขาคงไม่สบายใจอย่างมาก

เมืองเคโนชา ที่มีประชากรอาศัยเกือบ 1 แสนคนเผชิญเหตุประท้วงและจลาจลเพื่อระบายความโกรธแค้นต่อเนื่องเป็นคืนที่ 3 แล้ว อาคารธุรกิจร้านค้าและรถยนต์ถูกเผาเสียหายจำนวนมาก ผู้ประท้วงขว้างปาขวดและดอกไม้ไฟใส่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าสลายฝูงชน ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คนและผู้บาดเจ็บ 1 คนจากการถูกยิงระหว่างการประท้วงในช่วงเกือบเที่ยงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น
ขณะที่ก่อนหน่านั้นผู้ว่าการรัฐวิสคอนซินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวาน และส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไปสมทบเพิ่มจาก 150 นายเป็น 250 นายเพื่อควบคุมสถานการณ์ และเขตเคโนชา เคาน์ตีประกาศใช้เคอร์ฟิวอีกหนึ่งคืน นอกจากนี้การประท้วงยังขยายวงไปยังเมืองอื่นๆ เช่น พอร์ตแลนด์ ซีแอตเทิล มินเนอาโพลิส และนิวยอร์ก