เบลารุสประท้วงใหญ่ ลิทัวเนียร่วมด้วยช่วยกัน

จำนวนคนที่ออกมามากมาย ทำให้พื้นที่ขนาด 7 เอเคอร์ของจตุรัสเอกราช กลางกรุงมิ้นส์ค ไม่เพียงพอสำหรับผู้คนจำนวนมากได้ ทำให้จำนวนผู้ชุมนุมประท้วงต้องไหลทะลักออกมาภายนอก 
ไม่มีการเปิดเผยถึงจำนวนคนที่มาร่วมชุมนุม แต่สำนักข่าวบางแห่งประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ราว 1 แสน 5 หมื่นคนหรือมากกว่านั้น
แต่การชุมนุมก็เป็นไปอย่างสงบ แม้ตำรวจจะนำเอารถขนส่งนักโทษหลายสิบคันมารอไว้ แต่ก็ไม่ได้มีความพยายามที่จะสลายการชุมนุมแต่อย่างใด เรื่องนี้ต่างกับเมื่อช่วงต้นเดือน เมื่อทางการจับกุมประชาชนไปราว 7 พันคน หลังจากที่ผู้คนพากันออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก เป็นฝ่ายชนะไปอีกสมัยแบบค้านสายตา หลายคนถูกตำรวจทุบตีด้วยกระบองหรือถูกยิงด้วยกระสุนยาง แต่ผู้ประท้วงที่ถูกจับ น่าจะได้รับการปล่อยตัวออกมาทั้งหมดแล้ว และหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทางการก็ไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าวมากอย่างแต่ก่อน 
เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของเมืองหลวงแล้ว การชุมนุมเมื่อวานต้องถือว่าน่าจดจำ เพราะเมืองหลวงของเบลารุสมีประชากรไม่ถึง 2 ล้านคน ขณะที่ประชากรทั้งประเทศก็มีไม่ถึง 10 ล้านคน 
เบลารุสอยู่ภายใต้การปกครองอย่างเข้มงวดของประธานาธิบดีลูกาเชนโกมา 26 ปี จนทำให้เบลารุสได้ชื่อว่าเป็นประเทศเผด็จการแห่งสุดท้ายของยุโรป ขณะที่ในการประท้วงครั้งนี้ ผู้นำวัย 65 ปี ก็พยายามบอกว่าประเทศตะวันตกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ รวมถึงนาโต้ ก็มีการสั่งสมทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ตามแนวพรมแดนที่ติดกับเบลารุส นอกจากการประท้วงแล้ว ก็ยังมีการผละงานในโรงงานสำคัญ ๆ ของรัฐบาลในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศก็ไม่ค่อยดีอยู่เดิมแล้ว เรื่องนี้หมายความว่าฐานการประท้วง ได้ขยายลงมายังบรรดาชนชั้นแรงงานที่แต่เดิมเป็นฐานเสียงของฝ่ายรัฐบาล

แต่ในวันเดียวกัน ลูกาเชนโก ก็แสดงว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรกับการชุมนุมของประชาชน โดยการนั่งเฮลิคอปเตอร์บินวนบริเวณที่มีการชุมนุมเมื่อจะกลับมายังที่พำนักของเขาในเมืองหลวงที่บรรดาผู้ประท้วงแห่กันมาประท้วงอยู่ด้านนอก และเมื่อรายงานว่า เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์ เขาถือปืนเล็กยาวจู่โจมลงมาด้วย
ส่วนที่ลิทัวเนีย ประเทศเพื่อนบ้านของเบลารุส ประชาชนจำนวนมากก็ออกมาจับมือกันเป็นห่วงโซ่มนุษย์ยาวหลายสิบกิโลเมตร จากกรุงวิลนุส เมืองหลวงของประเทศ ไปยังพรมแดนที่ติดกับเบลารุส เพื่อแสดงการสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงงานนี้มีชื่องานว่า ฟรีด้อม เวย์  ประเมินกันว่างงานนี้มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5 หมื่นคน และห่วงโซ่มนุษย์ในครั้งนี้ยาวถึง 30 กิโลเมตร

เหตุการณ์นี้ก็คล้ายกับเมื่อปี 2532 เมื่อประชาชนมากกว่าล้านคนจาก 3 ประเทศแถบทะเลบอลติกคือลิทัวเนีย , ลัตเวีย และเอสโตเนีย ได้จัดงานคล้าย ๆ กันนี้ที่เรียกว่า บอลติก เวย์ ทำให้เกิดห่วงโซ่มนุษย์ยาวตั้งแต่กรุงวิลนุสไปจนถึงกรุงทาลลินของเอสโตเนีย เพื่อเรียกร้องเอกราชจากสหภาพโซเวียต
ที่กรุงปร๊าก ของสาธารณรัฐเช็ก ก็มีงานคล้าย ๆ กันนี้เมื่อวานเช่นกัน แต่มีผู้คนมาร่วมแค่ร้อยกว่าคน