โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาชื่อดังย่านชานเมืองของกรุงเทพมหานครโรงเรียนหนึ่ง นัดทำกิจกรรมชู 3 นิ้วหลังเคารพธงชาติเมื่อวันอังคารที่ 18 ส.ค. ปรากฏว่าเด็กนักเรียนหลายคนที่ไม่เห็นด้วย ต้องเลือกใช้วิธีไปโรงเรียนสาย เพื่อจะได้ไม่ต้องขัดแย้งกับเพื่อนนักเรียนจำนวนหนึ่งที่สนับสนุนกิจกรรม
นักเรียนชายที่ไม่เห็นด้วยกับการชู 3 นิ้ว ให้เหตุผลว่า ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรจากการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ แม้จะมีบางเรื่องที่ทำไม่ดีหรือไม่ถูกใจตนบ้าง แต่ก็เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรมากมาย ประกอบกับตนไม่ได้ให้ความสนใจข่าวการเมืองมากเป็นพิเศษด้วย จึงไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากพอที่จะตัดสินอะไรได้ มองว่ากิจกรรมแบบนี้ไม่ใช่การสื่อสารเชิงสัญลักษณ์อะไร เนื่องจากเท่าที่สอบถามเพื่อนๆ หลายคนที่ร่วมกิจกรรม ก็ยอมรับว่าไม่รู้ข้อมูลอะไรมากเช่นกัน แต่เห็นคนอื่นทำ ก็ทำตามๆ เขาไป
นักเรียนคนนี้ซึ่งศึกษาอยู่ชั้น ม.6 ยังบอกอีกว่า การนัดหมายจัดกิจกรรมชู 3 นิ้วของโรงเรียนที่ตนศึกษาอยู่ เริ่มมาจากนักเรียนระดับชั้น ม.ต้น โดยนัดหมายกันผ่านอินสตาแกรม (เพราะเด็กรุ่นใหม่นิยมเล่นอินสตาแกรมมากกว่าเฟซบุ๊ก เพราะสามารถดูและแชร์ไทม์ไลน์ได้) ก่อนจะเผยแพร่การนัดทำกิจกรรมไปยังทวิตเตอร์ ตั้งแต่ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นสภานักเรียนซึ่งเป็นพี่ ม.ปลาย ได้ประกาศสนับสนุน จึงเหมือนเป็นฉันทมติของนักเรียนทุกระดับชั้นว่าจะจัดกิจกรรมนี้ ทำให้นักเรียนที่ไม่เห็นด้วยต้องเลี่ยงไม่ร่วมกิจกรรมด้วยการเดินทางไปโรงเรียนสาย โดยบรรยากาศภายในโรงเรียน นอกจากนักเรียนแล้ว ยังมีกลุ่มครูที่อายุน้อยๆ ให้การสนับสนุนด้วย ส่วนครูที่อายุมากๆ ส่วนใหญ่จะวางเฉย หรือแสดงท่าทีคัดค้าน
นักเรียนชายชั้น ม.6 ยังบอกด้วยว่า นักเรียนที่ทำกิจกรรมชู 3 นิ้ว รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มประชาชนปลดแอก ตลอดจนม็อบนักศึกษาต่างๆ นั้น จริงๆ แล้วแยกได้หลายกลุ่ม หลายพฤติกรรม บางส่วนก็รู้ข้อมูลจริงๆ สนใจปัญหาการเมืองจริงๆ โดยรับข้อมูลทั้งหมดจากโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เฮตามเพื่อน แห่กันไป อย่างในวันชุมนุมใหญ่เมื่อ 16 สิงหาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีเพื่อนๆ ของตนหลายคนไปยังสถานที่จัดชุมนุมเพื่อถ่ายรูป และไปดูบรรยากาศคนเยอะๆ โดยที่ไม่ได้ไปร่วมรับฟังการปราศรัย และไม่ได้มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน