svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สุภาพสตรีหมายที่ 1 ที่จะไปสอนหนังสือ

19 สิงหาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จิล ไบเดน ภรรยาของอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแคร็ต ออกมาพูดถึงการต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ของครอบครัว และศักยภาพของสามีในการเป็นผู้นำสหรัฐ ระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตเมื่อคืน

การพูดในครั้งนี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 2 ทำให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นภาพส่วนตัวของครอบครัว ที่อาจจะขึ้นมาเป็นครอบครัวหมายเลข 1 ของประเทศในต้นปีหน้า หากชนะการเลือกตั้งปลายปีนี้
เมื่อวานเธอเริ่มต้นโดยพูดถึงเรื่องผลกระทบของ COVID-19  ต่อโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อดึงเรื่องมาสู่ความสูญเสียของครอบครัวไบเดน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ในปี 2515 ไบเดนสูญเสียภรรยาและลูกสาวที่ยังเล็กในอุบัติเหตุ ทำให้เขาต้องเลี้ยงลูกชาย 2 คนตามลำพัง 4 ปีต่อมา เขาแต่งงานใหม่กับเธอ และต่อมาทั้งคู่ก็ประสบกับการสูญเสียอีกครั้งเมื่อต้องสูญเสียลูกชายไปอีกคนในปี 2558 จากมะเร็งสมอง
จิลพูดเรื่องการทำให้ครอบครัวที่แตกสลายให้กลับมารวมกัน โดยบอกว่าต้องใช้ความรักและความเข้าใจ บวกกับความเมตตาอีกเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นแบบเดียวกับการทำให้ประเทศอยู่รวมกัน
จิล พูดเรื่องนี้จากโรงเรียนมัธยมแบรนดีไวน์ เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ที่เธอเคยสอนอยู่
การพูดครั้งนี้ถือเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญของผู้หญิงที่บอกว่าเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงและเป็นภรรยาผู้ลังเลของนักการเมือง 
ในบันทึกความทรงจำเธอเขียนว่า ไม่มีความปรารถนาที่จะกล่าวสุนทรพจน์อะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะที่ไหน และเมื่อไหร่ แค่คิดก็ทำให้เครียดจนป่วยได้แล้ว แต่ 8 ปีของตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลข 2  และการปรากฏตัวและขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานต่าง ๆ หลังสามีลงจากตำแหน่ง จิล ไบเดน กลายเป็นหนึ่งในคนที่ทำหน้าที่แทนไบเดนที่สำคัญที่สุดคนหนึ่ง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เธอไปร่วมงานหาเสียงมากมาย และลงไปหาเสียงกับกลุ่มลาตินโน่มากมาย

จิล แต่งงานกับโจ ไบเดนในปี 2520 นอกจากเลี้ยงดูลูกชาย 2 คนจากภรรยาเก่าของสามี เธอก็มีลูกสาวของตัวเอง 1 คนในปี 2524
เมื่อสามีย้ายจากเดลาแวร์ มาที่วอชิงตัน เมื่อเป็นวุฒิสมาชิก เธอทำงานเป็นครู  เธอได้ปริญญาโท 2 ใบ และปริญญาเอกด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ในปี 2550
จิล ไบเดน วัย 69 ปี เป็นที่ปรึกษาทางการเมืองที่ทรงคุณค่าที่สุดของสามี บางคนบอก ว่าความคิดเห็นของเธออยู่ในการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดของเขา ทั้งในเรื่องการเมืองและชีวิต เธอลังเลกับการเลือกตั้งของสามีในปี 2531 แต่ผลักดันเขาเต็มที่ในการเลือกตั้งปี 2551

ในขณะที่สามีเป็นรองประธานาธิบดี เธอก็ยังคงเดินหน้าสอนหนังสือที่วิทยาลัยชุมชน โดยไม่สนใจกับคำแนะนำของบรรดาผู้ช่วยในตอนนั้น และเธอก็บอกว่าจะเดินหน้าสอนหนังสือต่อไป แม้จะได้เป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1
ตอนเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 2 เธอผลักดันเรื่องภรรยาและครอบครัวของทหาร , วิทยาลัยชุมชน และการยกระดับการตระหนักรู้เรื่องการป้องกันมะเร็งเต้านม ซึ่งผู้ช่วยก็บอกว่า เธอก็จะเดินหน้าทำเรื่องเดิม ๆ เหล่านี้หลายเรื่องต่อไป หากได้กลับมาทำเนียบขาว 

logoline