นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ประเมินว่า ต้องมีประชากรอย่างน้อย 70% ที่มีแอนติบอดีหรือ สารภูมิต้านทาน จากการติดเชื้อหรือได้รับวัคซีนป้องกัน จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่จะป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ขณะที่นักวิจัยบางคนมองว่า สัดส่วนอย่างน้อย 50% ก็สามารถเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้
แต่ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของอนามัยโลก กล่าวเมื่อวานว่า เราไม่ควรอยู่กับความหวังว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และด้วยจำนวนประชากรโลกในขณะนี้ เรายังไม่เข้าใกล้ระดับที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่จนสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ และภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ใช่หนทางที่เราจะใช้ต่อสู้กับโควิด-19
นอกจากนี้ผลการศึกษาส่วนใหญ่ในขณะนี้ พบว่า เวลานี้มีประชากรเพียงเกือบ 10-20% เท่านั้นที่มีแอนติบอดีป้องกันโรคโควิด-19
และดร.บรูซ อายล์เวิร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เสริมด้วยว่า การให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ควรจะต้องครอบคลุมประชากรมากกว่า 50% ของทั้งโลก พร้อมกับเตือนว่า เราไม่ควรเบาใจตามความเห็นที่เป็นอันตรายว่า ภูมิคุ้มกันหมู่สามารถเกิดขึ้นได้ในระดับที่ต่ำกว่านี้