ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค แถลงวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 246 คน ซึ่ง 235 คนเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 15,761 คน โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดเป็นรองจาก 279 คนในวันอาทิตย์ ที่เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดเมื่อต้นเดือนมี.ค. และในช่วง 5 วันนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 991 คน
นอกจากนี้สาธารณสุขกรุงโซล เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนเชื่อมโยงกับโบสถ์ซารัง เชอิล ในกรุงโซลเพิ่มเป็น 457 คนในวันนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับจากพบสมาชิกของโบสถ์ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 12 ส.ค. และสาธุคุณ ชอน กวาง-ฮุน ผู้นำลัทธิเพิ่งได้รับการยืนยันว่าผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก เพียงสองวันหลังจากเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่มีสาวกหลายพันคนเข้าร่วมในกรุงโซลเมื่อวันเสาร์ และผู้ติดเชื้อเกือบ 40% ในคลัสเตอร์นี้เป็นกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
ขณะนี้การระบาดแบบกลุ่มก้อนที่กระจายทั่วกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบขณะนี้มีจุดเริ่มต้นจากโบสถ์หลายแห่ง ก่อนแพร่สู่คนอื่นๆตามร้านอาหาร คอฟฟีช็อป ฐานทัพ สถานที่ชุมนุมประท้วง และสถานีตำรวจ และสถานการณ์ส่อจะควบคุมไม่อยู่แล้ว ทำให้รัฐบาลต้องประกาศวันนี้ยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในกรุงโซลและจังหวัดคย็องกีอีก 1 ขั้นเป็นระดับ 2 รองจากระดับ 3 ที่เป็นระดับสูงสุด โดยให้มีผลบังคับใช้ 2 สัปดาห์เริ่มจากวันอาทิตย์นี้ และมาตรการนี้จะขยายครอบคลุมไปถึงเมืองอินชอน ใกล้กรุงโซลด้วย
ภายใต้มาตรการระยะห่างทางสังคมระดับ 2 กำหนดห้ามการรวมตัวกลางแจ้งเกินกว่า 100 คน ห้ามการรวมตัวในพื้นที่ปิดเกินกว่า 50 คน อนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬาได้
แต่ไม่ให้มีผู้ชม ส่วนสถานที่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ร้านคาราโอเกะ คลับ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ และร้านบุฟเฟต์ ต้องปิดชั่วคราว นอกจากนี้โบสถ์ทุกแห่งในกรุงโซลและพื้นที่
ปริมณฑลงดจัดกิจกรรมทั้งหมด ยกเว้นพิธีกรรมทางศาสนาที่จัดได้แต่ไม่ให้ศาสนิกชนเข้าร่วม
และกระทรวงกลาโหมประกาศเมื่อวานห้ามทหารออกนอกค่ายไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวในช่วงตั้งแต่วันพุธนี้จนถึงสิ้นเดือน และห้ามการพบปะสังสรรค์แบบส่วนตัวหรือทางการใดๆทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 แพร่เข้าสู่กองทัพ โดยขณะนี้บุคลากรในกองทัพติดเชื้อสะสมรวม 88 คน