ในการไปพูดที่กรุงโตเกียว นางอิซูมิ นากามิสึ ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ และตัวแทนระดับสูงสำหรับกิจการด้านการลดอาวุธ บอกว่า เวลากำลังใกล้จะหมดลงแล้วสำหรับสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งหากมันถูกปล่อยให้หมดอายุไป ก็จะทำให้โลกไม่มีการควบคุมในทางกฏหมายมาสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐรัสเซียเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ
เธอบอกว่า สองชาตินี้มีความรับผิดชอบพิเศษในฐานะประเทศมหาอำนาจในด้านอาวุธนิวเคลียร์
หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ไม่ต่ออายุ "สนธิสัญญาลดอาวุธยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ " หรือ New START ซึ่งเป็นสนธิสัญญาควบคุมอาวุธของสหรัฐและรัสเซียฉบับเดียวที่ยังเหลืออยู่ หรือประสบความสำเร็จในการเจรจาเรื่องสนธิสัญญาฉบบใหม่ที่จะมาทดแทนมัน สนธิสัญญาฉบับนี้ ก็จะปิดฉากลงในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ปีหน้า
นั่นก็คือเพียงแค่ 16 วัน หลังจากที่ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐสมัยที่ 2 หรือ โจ ไบเดน เข้ามาเป็นผู้นำสหรัฐสมัยแรก หากว่าใครคนใดคนหนึ่งชนะการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
ฝ่ายรัสเซียนั้น เสนอแนวทางง่าย ๆ ให้ต่ออายุสนธิสัญญาเดิมออกไปอีก 5 ปี แต่ทรัมป์ ไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะเขามองว่าจีนควรถูกดึงเข้ามาร่วมในสนธิสัญญาทำนองนี้ด้วย โดยคาดกันว่าจีนจะขยายคลังแสงนิวเคลียร์ของพวกเขาเป็น 2 เท่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า
แต่จีน ซึ่งไม่น่าจะมีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่โตเทียบเคียงกับ 2 มหาอำนาจอย่างรัสเซียหรือสหรัฐได้เลย แม้จะในอีก 10 ปีข้างหน้า ก็ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมวงกับสนธิสัญญาแบบนี้
เรื่องนี้ทำให้นางนากามิสึ ถึงกับออกมาบ่นว่า สถานการณ์ในปัจจุบันถือว่ายากอย่างมาก ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านความมั่นคงปลอดภัยอยู่ในสภาพที่แย่ลง
ทางหัวหน้าฝ่ายการลดอาวุธของสหประชาชาติ ที่ไปร่วมงานรำลึก 75 ปีการโจมตีเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ เมื่อเร็ว ๆ นี้หวังด้วยว่า ในฐานะประเทศเดียวของโลกที่ตกเป็นเหยื่อของอาวุธนิวคลียร์ ญี่ปุ่นน่าจะเพิ่มความพยายามในการผลักดันให้เกิดการลดอาวุธนิวเคลียร์