ประเด็นเรื่อง"ไซเบอร์ บุลลี่" ในบ้านเรานั้นมีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับคนดัง อย่างล่าสุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของสาวเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หลังจากเกิดดราม่าใหญ่โต กับอดีตคนเคยร่วมงานก็ถูกวิจารณ์ยับ แถมไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็เป็นที่จับตามองและถูกนำมาพูดถึงอย่างเมามันสนุกมือในโลกออนไลน์ในทางเสียหาย แม้เธอจะบอกว่ามองข้ามเรื่องคนที่ออกมาต่อว่าก็ตาม
แต่ทั้งนี้ก็มีคนในวงการอย่าง คุณปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาตประธานมูลนิธิ "คุณ" บอกว่า การที่มีคนไปขุดคุ้ยในเรื่องเดิมๆ และถูกสังคมออนไลน์ทำการ "ไซเบอร์ บุลลี่" ซ้ำไปซ้ำมา ก็อาจจะทำให้บุคคลที่ถูกกระทำและไม่มีจิตใจเข้มแข็ง มีความเครียดและนำไปสู่ภาวะโรคซึมเศร้าได้ จนอาจเกิดเหตุการณ์ที่เราคิดไม่ถึง
ดังนั้น คนที่ถูก "ไซเบอร์ บุลลี่" ที่อาจจะมีการทำผิดความผิดจริง และถูกขุดคุ้ยทั้งสังคมในโลกความจริง และในโลกเสมือนนั้น สื่อและสังคมควรที่จะให้กำลังใจ หากเค้ายอมรับผิดและออกมารับความจริง
ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีดาราศิลปิน หรือคนมีชื่อเสียงที่ถูก "ไซเบอร์ บุลลี่" จนต้องเข้าทำการรักษากับแพทย์ และเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งจนสามารถต่อสู้กับการถูกกลั่นแกล้งเหล่านี้ และกลับมาใช้ชีวิตรับมือกับโลกความจริงในสังคมต่อไปได้
การป้องกันตัวเองจาก "ไซเบอร์ บุลลี่" ในกรณีคนที่มีชื่อเสียง อาจจะต้อง "ทำใจ" เพราะในโลกออนไลน์ยุคนี้ มีคนบางกลุ่มที่ชอบขุดคุ้ยประวัติคนอื่นมากลั่นแกล้ง ซึ่งน้อยมากที่จะมีคนมาขุดคุ้ย เพื่อนำเสนอเรื่องดีๆ แต่เมื่อมีการขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีขึ้นมา สิ่งสำคัญคือ การบังคับให้ตัวเองไม่ไปใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะหากไม่ใช่เรื่องจริงของตัวเราเอง แต่ส่วนมากคนที่ถูกกระทำมักจะไปอ่านข้อความหรือการแสดงความเห็นที่ไม่ดี และนำมาเก็บไปคิดมาก ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย
ประธานมูลนิธิ "คุณ" ยังบอกว่าปัญหาการใช้โซเชียล มีเดีย ในบ้านเรา จัดว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงมากกว่าประเทศอื่นๆในโลก ซึ่งหากสังเกตจะพบว่า ประเทศในแถบยุโรปจะไม่ค่อยมีการแสดงความเห็นที่ให้ร้ายกันแบบบ้านเรา ซึ่งปัญหา "ไซเบอร์ บุลลี่" ในประเทศไทย เรียกได้ว่า วิกฤตไม่แพ้ประเทศอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าง เกาหลีใต้ ซึ่งเรามักจะพบว่า มีข่าวการกระทำอัตวินิบาตกรรมของศิลปินดาราชื่อดังจากการถูกสังคมออนไลน์ใช้เครื่องมืออย่างการทำ "ไซเบอร์ บุลลี่" มาเป็น "ศาลเตี้ย" ตัดสินชีวิตคนๆหนึ่ง และในบ้านเราก็เริ่มมีคนมีชื่อเสียงกระทำการอัตวินิบาตกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยทางออกที่อาจจะช่วยลดปัญหาได้ ก็คือ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ควรที่จะมีการพัฒนาบทลงโทษหรือคุมเข้มด้านกฏหมายในเรื่องนี้ด้วย ทั้งการควบคุมกลุ่มอวตารที่มักจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการให้ความเห็นใส่ร้ายหรือใช้ข้อความหยาบคายกับคนเป้าหมาย