แอมโมเนียมไนเตรททำนายกฯเลบานอนลาออก

ในการออกมาพูดกับประชาชนผ่านทางโทรทัศน์ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากที่ลงจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีฮัสซัน ดิอับ บอกว่า เขาถอยออกมา เพื่อว่าจะได้สามารถลงมาอยู่เคียงข้างประชาชน และต่อสู้ในศึกเพื่อการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับประชาชน เขาบอกด้วยว่าตอนนี้ เขาได้มาถึงข้อสรุปที่ว่าการคอร์รัปชั่นในเลบานอนนนั้นใหญ่กว่ารัฐเสียอีก
โดยก่อนหน้าการออกมาพูดกับประะชาชน คณะรัฐมนตรีของเขาก็ลาออกจากตำแหน่งไปด้วยเช่นกัน จากความกดดันที่รัฐมนตรีหลายคนได้ยื่นหนังสือลาออกไป และอีกหลายคนก็แสดงความจำนงค์ว่าจะลาออก
การลาออกมีขึ้นหลังการประท้วงอย่างหนักในช่วงเสาร์อาทิตย์ของประชาชนที่ไม่พอใจกับปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีบอกว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นความวิบัติ และว่าเขาเข้าใจความต้องการการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลที่คอร์รัปชั่นและมีเจตนาร้าย พวกนายหน้าและพวกโจร มาเป็นประเทศที่ปกครองด้วยหลักนิติธรรม ยุติธรรมและโปร่งใส

ในช่วงเวลาเช่นนี้ เลบานอนเหมือนตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทางการเมือง เพราะตั้งแต่เดือนตุุลาคมปีที่แล้ว ประเทศเจอกับการประท้วงใหญ่ ที่เรียกร้องให้บรรดาฐานอำนาจทางการเมืองลงจากอำนาจ ทั้งจากปัญหาการคอร์รัปชั่น , การไร้ความสามารถในการทำงาน และการจัดการที่ผิดพลาด
แต่แกนนำทางการเมืองก็อยู่ในอำนาจมาแสนนาน คือตั้งแต่หลังยุติสงครามกลางเมืองในปี 2533 ทำให้เป็นการยากที่จะหานักการเมืองที่น่าเชื่อถือ และไม่แปดเปื้อนกับเรื่องมัวหมองขึ้นมาบริหารประเทศ
อย่างในส่วนของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีดิอับ แม้ว่าดูแล้วไม่น่าจะอยู่รอดได้หลังเหตุระเบิด แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะลงจากอำนาจ และเมื่อ 2 วันก่อน เขาก็ยังออกมาพูดผ่านทางโทรทัศน์ เสนอที่จะทำงานต่ออีก 2 เดือนเพื่อจัดทำแผนสำหรับการปฏิรูปที่ฝ่ายต่าง ๆ จะเข้ามาร่วมกันทำงาน
สำหรับการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาล ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งก็คือ การส่งเรื่องการระเบิดไปยังสภายุติธรรมสููงสุด ซึ่งองค์กรด้านความยุติธรรมสูงสุดของประเทศ ที่ดูแลปัญหาเรื่องอาชญากรรมต่อความมั่นคงของชาติและอาชญากรรมการเมือง

เมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือ โดยมีสาเหตุมาจากแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน ที่เก็บไว้ที่โกดังที่ท่าเรือนานถึง 6 ปี โดยไม่มีใครไปจัดการกำจัดสารเคมีอันตรายเหล่านี้ แม้ว่าจะมีการเตือนเรื่องอันตรายของมันมาหลายครั้งแล้ว ระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 160 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 6 พันคน และสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนเป็นวงกว้าง ประชาชนมากกว่า 3 แสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่น ถึงหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์  หลังจากที่ลาออก นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล จะะทำหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ แต่แม้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะลาออก แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังคงเดินหน้าประท้วงที่หน้ารัฐสภากันต่อไปเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวาน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลก็เดินหน้าสลายการชุมนุมกันต่อไป โดยกลุ่มผู้ประท้วงบางคนบอกว่าตอนนี้ ต้องการให้รัฐสภาทั้งรัฐสภาลาออกไปด้วย