ผู้นำโลกร่วมบริจาคช่วยเลบานอน ก่อนสายเกินแก้

เมื่อวาน ผู้นำประเทศและเจ้าหน้าที่รัฐบาลจากประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 ชาติ ได้เข้าร่วมในการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนฟีเรนซ์ ที่เป็นเจ้าภาพจัดร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีฝรั่งเศสกับองค์การสหประชาชาติเพื่อระดมเงินบริจาคสนับสนุุนเลบานอน โดยหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ก็คือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ สำหรับคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมประชุมด้วยก็มีเจ้าหน้าที่จากจีน ประเทศในยุโรป และภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ในส่วนของตุรกีและรัสเซีย แม้ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ก็คาดว่าจะเข้าร่วมในการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ตามคำพูดของผู้นำฝรั่งเศสในช่วงกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม
มาครง ซึ่งเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่เดินทางไปเนือนกรุงเบรุตหลังเกิดเหตุระเบิด บอกว่าความช่วยเหลือฉุกเฉินนี้ จะเน้นไปที่การให้การบริการทางการแพทย์ อาหาร ที่อยู่อาศัยและการดูแล นอกจากนั้น ผู้นำฝรั่งเศสยังเรียกร้องให้ทางการเลบานอนดำเนินมาตรการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อต่อสู้กับปัญหาการคอร์รัปชั่นในประเทศด้วย และในขณะะที่ฝรั่งเศสจัดการประชุมเรื่องการบริจาคเพื่อช่วยเหลือเลบานอน ประเทศก็กำลังจะส่งเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และเรือสินค้าอีก 1 ลำ มุ่งหน้าไปเลบานอน เพื่อนำความช่วยเหลือไปช่วยประเทศนี้
กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสบอกว่าเรือ 2 ลำ เข้ามาเสริม หลังจากที่ฝรั่งเศสส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนไปก่อนแล้ว 8 เที่ยวบิน ซึ่งก็รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ สำหรับเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ที่ออกเดินทางจากท่าเรือทางใต้เมื่อวาน มีโรงพยาบาลอยู่ภายในเรือด้วย นอกจากเจ้าหน้าที่การแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือแล้ว มันยังนำทหารช่าง รวมทั้งอุปกรณ์การก่อสร้าง และอาหาร ซึ่งก็มีทั้งแป้งสาลี นมผง และน้ำดื่มไปส่งให้กับทางการเลบานอนด้วย สำหรับเรือสินค้าจะเดินทางตามไปสมทบในเร็ว ๆ นี้ รวมแล้ว ฝรั่งเศสส่งความช่วยเหลือประเภททางการแพทย์มาให้ 18 ตัน และอาหารอีก 663 ตัน
ขณะเดียวกัน การประท้วงรัฐบาลเลบานอน สำหรับความล้มเหลวในการแก้ปัญหาหลาย ๆ ด้าน ทั้งก่อนและหลังการระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้เกิดการประท้วงในกรุงเบรุตอีกครั้งเมื่อวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จัตุรัสผู้พลีชีพเพื่อศาสนาที่มีความตึงเครียดมากจนเจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตา เมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาที่มีการป้องกันแน่นหนา
ด้านรัฐมนตรีเลบานอน ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว 2 คนเมื่อวาน คือรัฐมนตรีกระะทรวงข่าวสารมานาล อับเดล ซามัด และรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ดาเมียนอส กัตตาร์ โดยทั้งสองต่างก็อ้างถึงการระเบิดว่าเป็นสาเหตุของการลาออกครั้งนี้