เลบานอนเล็งประกาศภาวะฉุกเฉิน นานาชาติยื่นมือช่วยเหลือ

ประธานาธิบดีมิเชล อาอุน เรียกจัดประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินในวันนี้ และเปิดเผยว่าอาจมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลาสองสัปดาห์ ก่อนหน้านั้นสภาความมั่นคงได้ประกาศให้กรุงเบรุตเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ นอกจากนี้ประธานาธิบดีประกาศว่าจะจัดสรรงบฉุกเฉิน 1 แสนล้านลีราหรือราว 2,050 ล้านบาทเพื่อเยียวยาผู้เคราะห์ร้ายและฟื้นฟูบ้านเมือง และรัฐบาลประกาศให้ไว้อาลัยอย่างเป็นทางการทั่วประเทศนาน 3 วันเริ่มจากวันนี้
ด้านเจ้าหน้าที่เลบานอนแสดงความกังวลกรณีประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวถึงเรื่องระเบิดในเลบานอนว่าเป็นการโจมตีครั้งเลวร้าย และอาจเป็นระเบิดบางชนิด ขณะที่ทางการเลบานอนเชื่อว่าเกิดจากแอมโมเนียมไนเตรต ซึ่งเก็บอยู่ที่โกดังในท่าเรือมานาน 6 ปีโดยไม่มีมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเหมาะสม และเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ 3 คนยังแสดงความเห็นโต้แย้งกับทรัมป์ โดยบอกว่า ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าเหตุระเบิดในเลบานอนเกิดจากการโจมตี  
ขณะที่กาบี อัชเคนาซี รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ตอบปฏิเสธคำกล่าวโทษใดๆที่ชี้ว่า อิสราเอลอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด โดยบอกว่า "ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้่เป็นอุบัติเหตุ" และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอิสราเอลอีก 2 คนก็ไม่บอกว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง 
ด้านบาดรี ดาเฮอร์ อธิบดีกรมศุลกากรเลบานอน ปฏิเสธความรับผิดชอบในการเก็บแอมโมเนียมไนเตรตไว้ที่ท่าเรือ และกล่าวโทษว่า ฮันซัน โคเรย์เทม ผู้อำนวยการท่าเรือเป็นฝ่ายรับผิดชอบ g

ขณะเดียวกันมีรายงานชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิดโดยเบื้องต้นได้รับการยืนยันว่า มีชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 6 คน ชาวญี่ปุ่นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน และชาวออสเตรเลียเสียชีวิต 1 ราย นอกจากนี้เรือลำหนึ่งของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน ซึ่งจอดที่ท่าเรือได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทำให้ทหารบางนายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งบางคนมีอาการขั้นวิกฤต  ส่วนสถานทูตสหรัฐในกรุงเบรุต แนะนำให้พลเมืองอยู่ภายในบ้าน และสวมหน้ากากหากเป็นไปได้ เนื่องจากอาจมีก๊าซพิษจากเหตุระเบิดปะปนในอากาศ
ขณะที่นานาชาติประกาศให้ความช่วยเหลือแก่เลบานอน โดยกาตาร์จะส่งโรงพยาบาลสนามขนาด 500 เตียงสองแห่งในวันพุธ อิรักเตรียมส่งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่งและน้ำมัน และคูเวตจะส่งความช่วยเหลือทางการแพทย์ด้วยเช่นกัน และองค์การอนามัยโลกกำลังประสานงานกับชาติต่างๆเพื่อให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นเร่งด่วน 
นอกจากนี้อิสราเอลเสนอให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์เช่นกัน แม้ว่าทั้งสองประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยประธานาธิบดีริวเวน ริฟลิน ทวีตว่า "เราขอร่วมแบ่งเบาความเจ็บปวดของประชาชนเลบานอน และเสนอให้ความช่วยเหลือด้วยความจริงใจในช่วงเวลายากลำบากนี้ "
เลบานอนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่อิสราเอลถือว่าเป็นศัตรู และสองประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตนับตั้งแต่มีการลงนามหยุดยิงในปี 2492 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูเพิ่งเตือนว่า เลบานอนและกลุ่มหัวรุนแรงเฮซบุลเลาะห์จะต้องรับผิดชอบกรณีที่สมาชิกเฮซบุลเลาะห์แทรกซึมเข้าสู่ดินแดนของอิสราเอล