ล่าสุด "เนชั่นทีวี" ได้สอบถามไปยังทนายความชื่อดัง นิติธร แก้วโต หรือ "ทนายเจมส์" ที่ได้เข้ามาช่วยอย่างจริงจัง โดยเขาบอกว่า จะช่วยด้านกฏหมายอย่างถึงที่สุด เพราะเห็นว่าเด็กที่ถูกเอาเปรียบ
ส่วนประเด็นหลักที่จะฟ้องร้องทางกฎหมาย ทนายเจมส์วางไว้ 3 แนวทางใหญ่
"ที่แน่ๆเลยคือฟ้องแพ่ง นี่ยืนหนึ่งเลย เรื่องที่ 1. เป็นการฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญาหุ้นส่วน ด้วยการบังคับให้คิดบัญชีค่าใช้จ่าย และผลกำไรที่มันเกิดขึ้น ให้แบ่งปันผลกำไรมา"
ซึ่งกรณีนี้ทนายเจมส์บอกว่า สัญญาหุ้นส่วน ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดรูปแบบไว้ เพราะฉะนั้นไม่มีสัญญาก็ฟ้องกันได้ ไม่เหมือน สัญญาเงินกู้
ส่วนเรื่องที่ 2 คือเรื่องลิขสิทธิ์ โดยน้องเก้ามีลิขสิทธิ์อยู่ 2 ส่วน คือลิขสิทธิ์นักแสดง และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงาน เอ็มวี หรือวิดีโอ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับงานเพลง
"น้องเจนนี่ มีเพลง มีลิขสิทธิ์เพลง มีน้องลิลลี่ ที่ร้องเพลง แต่ขาดนักร้องชายที่มีชื่อเสียง และมีผลงานอยู่แล้ว เลยเอาฐานเสียงของเก้าเข้ามาหนุน ทำให้มิวสิควิดีโอนี้ลงตัว จะเห็นว่า เจนนี่ ลงทุนด้วยเงิน ลงทุนด้วยนักร้องของตัวเองคือ ลิลลี่ แต่เก้าลงทุนด้วยแรง คือเป็นนักแสดงในเอ็มวี จึงต้องเรียกร้องในฐานะหุ้นส่วนครับ"
และส่วนที่ 3 ทนายเจมส์มองไปถึงเรื่องของค่าตัวที่ไปออกแต่ละรายการ ซึ่งเขาจะดำเนินการขอข้อมูลเหล่านี้จากทุกรายการว่า ได้จ่ายให้ทีม หรือจ่ายให้เป็นค่าตัว
"ถ้าจ่ายเป็นค่าตัว นั่นคือเป็นเงินของน้องเก้านะ ถ้าคุณเจนนี่จ่ายให้เก้า 500 อีก 3,000 เก็บไว้ จะเป็นการยักยอกทรัพย์หรือเปล่า อันนี้ผมกำลังดูข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายบางส่วนอยู่"
ทนายเจมส์ บอกว่ากรณีของน้องเก้าและเจนนี่ เขามั่นใจว่าฟ้องได้แน่ ส่วนผลจะออกมาในรูปแบบไหน ยังบอกไม่ได้
"ถามว่าหลักฐานที่ผมมีหนักแน่นมั้ย ผมว่าเพียงพอ ก็พลิกไปตามที่ทางนั้นสู้มา เกมส์นี้ถ้าเขาสู้ไม่ดี ก็แพ้ตั้งแต่ต้น" ทนายชื่อดัง กล่าวอย่างมั่นใจ
สำหรับการลงมาช่วยเหลือน้องเก้าครั้งนี้ ทนายเจมส์บอกว่า เป็นการเข้ามาแบบส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กรอะไรทั้งนั้น
"ที่เข้ามาช่วยเพราะเป็นน้องเก้าเป็นเด็กดี เป็นคนกตัญญู นิสัยดี ตรงไปตรงมา ถูกกระทำขนาดนี้ ผมอยากทำให้เป็นมาตรฐานในวงการศิลปินด้วย เพราะไม่อยากให้ใครถูกเอาเปรียบอีก" ทนายความชื่อดัง กล่าวทิ้งท้าย