ครูในหลายเมือง เช่น ชิคาโก และนิวยอร์ก เดินขบวนตามท้องถนนเพื่้อเรียกร้องให้ปรับการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ทั้งหมด และไม่เห็นด้วยกับแผนการเปิดเรียนแบบผสมผสานทั้งในห้องเรียนและทางออนไลน์ในการเปิดภาคเรียนช่วงเดือนหน้า เพราะมองว่าสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัยมากพอ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มครูที่ร่วมกันเดินขบวนทั่วประเทศครั้งนี้ประกาศข้อเรียกร้องผ่านทางเวบไซต์ว่าการเปิดเรียนในห้องเรียนจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน มีมาตรการด้านความปลอดภัยเพียงพอ เช่น ลดขนาดห้องเรียนและตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา และโรงเรียนมีที่ปรึกษาและพยาบาลเพียงพอให้การดูแล รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัวที่ขัดสน เช่น เงินอุดหนุน ค่าเช่า สินเชื่อที่อยู่อาศัย ระงับการขับไล่และยึดทรัพย์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันหลายครั้งว่าต้องการให้โรงเรียนเปิดสอนในห้องเรียนตามปกติในช่วงเดือนส.ค.และก.ย.นี้ และเขายังทวีตเมื่อวานว่า "ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพราะการตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้น พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังปลอดภัยมาก เปิดโรงเรียนได้แล้ว" แต่ตามรายงานข่าวระบุว่า สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งขึ้นเป็นกว่า 4.8 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 1 แสน 5 หมื่น 8 พันคน
ขณะที่ ดร.แอนโธนี ฟาวชี่ ผู้อำนวยการสถานบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ ยืนยันว่า เขายังสนับสนุนให้พยายามเท่าที่ทำได้เพื่อเปิดการสอนในห้องเรียนด้วยเหตุผลด้านสุขภาพจิตของเด็กและโภชนาการของเด็กที่ต้องพึ่งพาอาหารเช้าและกลางวันในโรงเรียน แต่การตัดสินใจสำคัญขึ้นอยู่กับความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียนและครู และผลกระทบจากการแพร่กระจายของเชื้อสู่คนในครอบครัว แต่หากอัตราการติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ และมีโอกาสน้อยมากที่จะแพร่กระจาย ก็สามารถเปิดโรงเรียนได้โดยต้องมั่นใจว่ามีมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย