ผู้ส่งออกแนะ 'รื้อเกณฑ์' ปล่อยกู้ลดต้นทุนธุรกิจ

กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือน มิ.ย.  มีมูลค่า 16,444 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 23.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 14,833 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 18.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ครึ่งปีแรก การส่งออกไทยติดลบ 7.09% หรือประมาณ 114,342 ล้านดอลล่าร์ฯ และนำเข้าติดลบ 12.62% และจากตัวเลขดังกล่าว ส่งผลให้ สรท.ปรับประมาณการส่งออกของไทยปีนี้น่าจะติดลบที่ 10% บนสมมติฐานค่าเงินบาทที่ 31.5 บาทต่อดอลลาร์
โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ส่วนใหญ่อยู่ในหมวดอาหาร อาทิ ผัก ผลไม้สด/แช่แข็ง อาหารกระป๋องและอาหารแปรรูป ตรงข้ามกับสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หดตัวถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาทิ เครื่องประดับที่ไม่ใช่ทองคำ รถยนต์  อุปกรณ์และส่วนประกอบ
สำหรับปัจจัยลบที่มีผลต่อการส่งออก คือ ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19ทั่วโลกที่ยังคงมีความรุนแรง ทำให้หลายประเทศยังต้อง lockdown ต่อเนื่อง ประกอบกับกำลังซื้อของประเทศต่างๆทั่วโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร / นอกจากนี้ยังต้องจับตาความขัดแย้งของการเมืองระหว่างประเทศ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ยังมีการตอบโต้กันไปมาระหว่างทั้ง 2 ชาติ
ซึ่ง สรท.ได้มีข้อเสนอไปภาครัฐ โดยเฉพาะการแก้ไขกฎระเบียบด้านโลจิสติกส์ที่ล้าสมัย เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ / การเยียวยาด้านการเงินกับเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐเร่งผ่อนปรนนโยบายปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ และขยายอายุขอ พรก.เงินกู้เป็น 5 ปี พร้อมกับเรียกร้องผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่เร่งรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ