svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ผกก.ท่องเที่ยว" ยืนยันเอาผิด "บิ๊กโจ๊ก" ถึงที่สุด

04 สิงหาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ" ผกก.ตำรวจท่องเที่ยว ยื่นศาลไม่ไกล่เกลี่ยในคดีฟ้องกลับบิ๊กโจ๊ก "สุรเชษฐ์ หักพาล" ฟ้องเท็จ-เบิกความเท็จ กล่าวหาพาจำเลยหนีไปลาว พร้อมยืนยันเอาผิดถึงที่สุด ไม่กลัวอิทธิพลใดๆ ศาลนัดตรวจหลักฐานปีหน้า

วันนี้ ( 4 ส.ค.) เมื่อเวลา เวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พันตำรวจเอก กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ ผกก.1 บก.ทท.2 ในฐานะโจทก์ ได้เดินทางมาตามศาลนัดไกล่เกลี่ยในคดีที่ พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล จำเลยในฐานความผิด "ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ" จากกรณีที่โจทก์เคยถูกจำเลยกล่าวหาว่าร่วมกับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร. กลั่นแกล้งตั้งกรรมการสืบสวนทางวินัยจำเลย กรณีจำเลยถูกร้องเรียนเรียกรับส่วยคาราโอเกะที่จังหวัดนครพนม ครั้งที่ จำเลยดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับ 3 ค้ามนุษย์ เมื่อปี 2554
ต่อมา ศาลชั้นต้น และศาลชั้นอุทธรณ์ ได้ยกคำร้อง ทำให้โจทก์พ้นผิด เมื่อปลายปี 2562 โจทก์จึงได้ขออนุญาตศาลตรวจสอบหลักฐานที่นำมาฟ้อง ก่อนที่จะพบว่าพยานหลักฐานบางอย่างเป็นเท็จ เมื่อ 10 ตุลาคม 2562 จึงได้นำหลักฐานดังกล่าวฟ้องกลับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์

โดย พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กล่าวภายหลังเข้ายื่นศาลไม่ไกล่เกลี่ยในคดีฟ้องกลับ "บิ๊กโจ๊ก" ฟ้องเท็จ-เบิกความเท็จ ว่า ในวันนี้ตนได้มายืนยันต่อศาลด้วยตัวเองว่า "ไม่ไกล่เกลี่ยในเรื่องที่ฟ้อง พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นจำเลยที่เขาได้ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ เมื่อปี 2554 ที่เขาถูกร้องเรียนเรื่องเปิดคาราโอเกะที่นครพนม และโดนตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และทาง พล.ต.อง.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็น ผบ.ตร. ในตอนนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

"ผกก.ท่องเที่ยว" ยืนยันเอาผิด "บิ๊กโจ๊ก" ถึงที่สุด


หลังจากนั้นในวันที่ 12 ก.ค. 2554 เขาก็ฟ้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กับคณะกรรมการ และก็ฟ้องผมเข้าไปด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้เกี่ยงข้องอะไรในคดี และก็ยังมีการทำหลักฐานที่ไม่จริงเข้าไปฟ้อง และมีการเบิกความเท็จด้วย
"ในช่วงเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา ผมเองก็ได้สู่คดีและพิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างอยากลำบาก และยังถูกกลั่นแกล้งย้ายไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ผมและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี สุดท้ายความจริงก็คือความจริง สิ่งที่เข้าฟ้องไปเมื่อปี 2554 ศาลได้ยกในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ยกฟ้อง จากนั้นผมก็ให้ทนายเข้ามาขอคัดคำฟ้องที่เขาฟ้องก็พบว่ามีเรื่องเท็จและเบิกความเท็จ

"ผกก.ท่องเที่ยว" ยืนยันเอาผิด "บิ๊กโจ๊ก" ถึงที่สุด


ผมจึงนำเรื่องมาฟ้องต่อศาล ศาลท่านให้ความเป็นธรรมโดยรับเรื่องเป็นคดีให้ผม ซึ่งสิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้ คือ ต้องการเห็นความยุติธรรม อยากให้ผู้กระทำผิด คือ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ได้รับโทษตามกฎหมาย เพื่อเป็นบรรทัดฐานทางสังคม ไม่ให้ใครเอามาเป็นเยี่ยงอย่าง ผมเองมีความเชื่อมั่นในขบวนการศาลสถิตยุติธรรม ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผม ว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ผมและครอบครัว" พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กล่าว

"ผกก.ท่องเที่ยว" ยืนยันเอาผิด "บิ๊กโจ๊ก" ถึงที่สุด


พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ ยังกล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ตนไม่มีความกังวนและไม่กลัวอิทธิพลใด ๆ อยากให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของขบวนการยุติธรรม และให้ศาลพิพากษาลงโทษเขา และนำเขามาเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมให้เขาได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาผมดโนไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ผมก์เจออะไรมาเยอะพอสมควร ผมจึงไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ผมมีใจเข้มแข็งครับ ทั้งนี้ได้นัดตรวจพยานหลักฐานในเดือนมิถุนายน ปี2564 แต่ยังไม่ได้กำหนดวันและเวลา

logoline