"ดร.เสรี - ทนาย" ลั่น "โคเคน" รักษาฟันแค่ปาหี่

ทนายเอาตาชั่งมา?
ทนาย : "เมื่อวานเอาไปป.ป.ช. ด้วย น้องๆ นักศึกษาหลายมหาวิทยาลัย มีม.รังสิตด้วย ไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้ดาบตร.ที่ตาย มีคำๆ นึงที่รู้สึกสะเทือนใจมาก เด็กถามว่าทำไมเราต้องไปยัดข้อหาให้คนที่ตายแล้วด้วย คนไม่ตายก็ไปขอสอบพยานเพิ่ม คนตายไม่เห็นมีใครไปช่วยเขาเลย โห ฟังแล้วสะเทือนอารมณ์นะ"
ดร.เสรี : "แสดงว่าแม้แต่เด็กมหาวิทยาลัยเขายังมีความคิดสะกิดใจ จริงๆ มีสะกิดใจหลายอัน เมาหลังขับก็สะกิดใจ ตายแล้วโดนข้อกล่าวหาก็สะกิดใจเหมือนกัน"

เรื่องหลักฐานที่เกิดล่าสุดเรื่องโคเคนนี่ยังไง?
ดร.เสรี : "เขาบอกว่าในยาชามีโคเคน แต่ยาชาที่ใช้โคเคน เขาเลิกใช้ไปตั้งนานแล้ว เพราะหนึ่งเป็นสารเสพติด สองมีผลข้างเคียง ถ้าใช้โคเคนเป็นยาชาต้องย้อนกลับไปหลายร้อยปี ต้องหาหมอฟันคนนี้ให้เจอ คนเขาติดโคเคนเขาบอกว่าอยู่ไหน จะได้ไปทำฟันร้านนี้"
ทนายรณณงค์ : "มีหนักกว่านั้น มีคนถามตร.ว่านายบอสเอาหมอมายืนยันมั้ยในชั้นพนักงานสอบสวน เขาบอกว่าไม่มีเอกสารทางแพทย์มายืนยันว่ามีหมอมารักษาให้ มีแค่การเบิกลอยๆ มา"
ดร.เสรี : "การพูดแบบนี้ก็ทำให้ประชาชนมองได้ว่าเป็นปาหี่ นี่คือโคเคนซึ่งอยู่ในยาชาการรักษาฟัน คนก็ต้องถามต่อไปว่าหมอฟันคนไหนอยู่ที่ไหน จะมาพูดลอยๆ ว่าตรวจเขาไม่ได้ เพราะเป็นยาชาที่เกิดจากการไปทำฟัน งั้นก็บอกมาว่าร้านทำฟันร้านไหน และหมอคนนั้นชื่ออะไร ตรงนี้ชื่อต้องชัดเจน"
ทนาย : "และต้องไม่ตายด้วย (หัวเราะ) ผ่านมา 7 ปี ไม่รู้หมอฟันคนนี้ยังมีชีวิตอยู่มั้ย หรือเป็นหมอฟันต่างประเทศฺ (หัวเราะ)"
จะสั่งฟ้องเรื่องยาเสพติดได้มั้ย?
ทนาย : "มีคนถามเรื่องนี้เยอะมาก เรื่องสารเสพติด โคเคน ไปอยู่ในร้านหมอฟันได้ยังไง หลายประเด็น พยานทยอยตาย พอจะเรียกมาสอบก็ตายทันที เป็นประเด็นอีก"
ดร.เสรี : "คนมองเห็นเป็นเรื่องบทละครตลก ปาหี่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะโคเคน ยาชาทำฟัน โคเคนไม่อยู่ในพ.ร.บ.จราจร หรือมีพยานโผล่มาหลังผ่านไป 7 ปี พี่ว่ามีคนมองเป็นปาหี่มากขึ้นนะ"
พยานเพิ่งตาย ฆาตกรรมหรือกรรม?
ดร.เสรี : "กรรม ดูในแง่กล้องวงจรปิดแล้ว ไม่มีใครไปชนเขา เขาชนคนอื่น ถ้าเป็นการฆาตกรรมมันต้องแปลว่ามีคนมาชนเขา อันนี้ภาพชัดเจน เขาเป็นคนชนคนอื่น คนอื่นกระเด็น อย่าไปคิดฆาตกรรม แต่คนเรากรรมมีจริง แต่จะมาช้าหรือเร็วก็สุดแต่จะว่ากันไป"
ทนาย : "ประจวบเหมาะมากๆเลยนะครับ อีกวันคณะกรรมาธิการเขาจะเรียกพยานปากนี้ไปให้ถ้อยคำที่กรรมาธิการ แล้วพยานก็เสียชีวิตก่อน"
ดร.เสรี : "เรื่องนี้ถือว่ากรรม ไม่ใช่ฆาตกรรม เพราะกล้องวงจรปิดชัดเจนว่าไม่มีใครมาชนเขา เขาชนคนอื่นกระเด็น เขาเครียดหรือเปล่าก็อีกเรื่อง ซึ่งก็เป็นกรรมไง ถ้าเกิดเขาทำเช่นนั้นมันคือการกระทำที่เป็นกรรม"พยานปากเอกอีกคน ร้อนๆ หนาวๆ มั้ย?
ทนาย : "พยานปากนี้ปากหนักนะ ถ้าเทียบกันเป็นตาชั่ง พยานปากนี้ปากหนักมาก เพราะไม่มีทางได้อะไรเป็นประโยชน์กับสิ่งที่สังคมสงสัยเด็ดขาด เพราะเป็นระดับพลอากาศโท ส่วนหนึ่งในการสอบสวน ถ้าชาวบ้านเป็นพยานเท็จอย่างคดีครูจอมทรัพย์ สอบไม่นานก็หลุด แต่ถ้าไปสอบทหาร สอบยาก ถามว่าคนระดับพลโท ร้อยเวรจะกล้าไปถามมั้ยว่าวันนั้นไปอยู่ตรงไหน"

อ.วิชา มหาคุณที่นายกฯ แต่งตั้งล่าสุด เป็นยังไงบ้าง?
ดร.เสรี : "มีความมั่นใจ ท่านทำมาหลายคดี และหลายคดีเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ระดับสูงมากๆ ท่านไม่เคยออม ไม่ใช่ประเภทไม่กล้าแตะ แม้นายกฯ ให้เวลา 30 วัน แต่เชื่อว่าจะได้คำตอบเร็วก่อน 30 วัน สอง ท่านคงต้องรู้ว่ากระแสสังคมต้องการอะไร ท่านจะต้องหาคำตอบมาให้ได้ สามเราจะได้ความจริงเชิงประจักษ์ว่าขั้นตอนที่เดินมาถึงคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องทุกคดี มันคืออะไร ประชาชนจะได้รู้ตรงนี้แน่นอน"
ทนาย : "อาจารย์วิชา มหาคุณ หนึ่งในคณะกรรมการที่ชี้มูลความผิดคุณยิ่งลักษณ์ เรื่องจำนำข้าว ฉะนั้นคดีนี้เบากว่าคุณยิ่งลักษณ์อีก ถ้าผิดทำไมจะไม่กล้าชี้ ขนาดอดีตนายกฯ ยังกล้าแล้วไม่ได้กลับประเทศด้วย แล้วคดีนั้นทำให้หลายๆ คนติดคุกจริงนะ"
ดร.เสรี : "วันที่นายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ หลายคนรู้สึกดีเลย เพราะมีชื่อเดียวเท่านั้นที่โผล่ คือชื่อวิชา มหาคุณ นอกนั้นนายกฯ แต่งตั้งโดยตำแหน่ง คือประธานปฎิรูปกฎหมาย ประธานปฏิรูปยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการกฤษฎีกา คณบดีนิติศาสตร์จุฬาฯ คณบดีนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ คณบดีนิติศาสตร์รามคำแหง มาโดยตำแหน่ง ไม่ใช่ไปเลือกนายสมชาย สมหญิง ทุกคนมาโดยตำแหน่ง และตำแหน่งที่ประกาศ เป็นตำแหน่งที่โอ้โห ต้องยอมรับ เลยสบายใจ"
ทนาย : "อาจารย์วิชา มีอีกตำแหน่งนะ คณบดีนิติศาสตร์ม.รังสิต ในทางวิชาการ จะเห็นได้ว่านายกฯ ท่านตั้งเกี่ยวกับด้านนิติศาสตร์มาสอบอัยการโดยเฉพาะเลย ไม่ใช่ไปตั้งตาสีตาสามาสอบ เขาจะมีความรู้เลย คำแรกเลยที่อาจารย์ท่านพูด จะดูว่าใช้ดุลยพินิจ ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายชอบมั้ย"
ดร.เสรี : "ชอบทั้งสองคำนี้จริงๆ เพราะท่านจะสืบทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย นี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด แปลว่าเรื่องดุลยพินิจกับหลักการต้องประกบคู่กัน นี่คือสิ่งที่สุดยอด"
ทนาย : "อันนี้ดีกว่าอัยการสอบอัยการกันเองนะ อย่าลืมนะ ก่อนหน้านายกฯ ตั้ง คนตั้งคำถามว่าสำนักงานอัยการสูงสุดตั้ง 7 อรหันต์อัยการสอบอัยการชั้นผู้น้อย สอบรองอัยการสูงสุด ตร.สอบตร.เอง สังคมก็ถามว่ามันได้เหรอ จนกระทั่งแรงกดดันมันเยอะ ท่านนายกฯ เลยต้องตั้งกรรมการกลางเข้าไปสอบทั้งหมดที่ว่ามานี้อีกรอบนึง"
ดร.เสรี : "หลังจากสอบไปวันสองวันนี้ แล้วออกมาแถลงการณ์ พี่ว่ายิ่งพูดยิ่งทำให้ถลำลึกลงไปเรื่อยๆ คนก็เชื่อน้อยลงเรื่อยๆ มันมีความสับสนอลหม่านในคำแถลงเยอะมาก"

ทนายไปฟ้องป.ป.ช. นี่ยังไง?
ทนาย : "เราทนไม่ได้จริงๆ เราเลยชวนน้องๆ นักศักษานิติศาสตร์ทั่วประเทศส่งตัวแทนมาเดี๋ยวไปป.ป.ช. ไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วย และให้ป.ป.ช. ที่มีอำนาจตามกฎหมาย ไต่สวนอัยการสูงสุดเลย เมื่อวานอึ้งหลายๆ อย่างที่เด็กคิดได้"
คณะกรรมาธิการของสิระ จะได้อะไรบ้าง?
ทนาย : "ตอนแรกจะได้เยอะเลย แต่พอพยานตาย จะได้อะไรน้อยมาก ถ้าไม่ตายจะได้สอบปากคำชัดๆ  ว่าเห็นไม่เห็นยังไงบ้าง แต่นี่พอตายแล้วพิสูจน์ยาก"
ดร.เสรี : "ที่ชื่นชมคณะกรรมาธิการ เพราะมีตร.รายนึง โดนถามคำถามคำนึง แต่เขาบอกว่าจะไม่ขอตอบในกรรมาธิการชุดนี้ แต่จะไปขอตอบกรรมาธิการตร. ซึ่งปรากฎว่าวันที่ 5 ส.ค. กำหนดแล้วว่ากรรมาธิการ 3 ชุดจะนั่งสอบพร้อมกัน ฉะนั้นจะบอกว่าไม่ตอบอันนั้น ไปตอบอันโน้นไม่ได้แล้ว 3 เจ้าเขาจะนั่งรวมกัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กรรมาธิการมากกว่า 1 ชุด มานั่งซักคนที่ถูกเรียกเข้ามา"
ทนาย : "มีกรรมาธิการกฎหมาย กรรมาธิการตร. กรรมาธิการ ป.ป.ช. มาครบเลย จริงๆ คดีนี้สิ้นสุดแล้วในทางกฎหมายอาญา ไม่อธิบายให้สังคมฟังไม่ว่าแต่ก็ให้อธิบายให้ตัวแทนประชาชนฟังหน่อย"
ดร.เสรี : "ตามหลักการ ในการบริหารประเทศ ไม่ควรจะปล่อยให้ประชาชนอยากรู้อยากเห็นโดยไร้คำตอบ"

คดีนี้จะมีการรื้อคดีมั้ย?
ทนาย : "แทบจะปิดประตูตายในการรื้อเลย แม้จะตั้งคณะกรรมการหลายๆ คณะ เห็นมั้ยเมื่อวาน มีนักข่าวบางช่องนับได้ 9 คณะ เยอะมาก แต่ที่ตั้งมาคงทำอะไรไม่ได้ เพราะอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ส่วนญาติผู้ตายที่จะฟ้องได้ พ่อแม่ลูกคู่สมรสไม่มีจบแล้ว"
ดร.เสรี : "พี่คิดเหมือนทนาย อย่าไปคาดหวังว่าเราจะไปรื้อคดีได้ แต่สิ่งที่เราจะได้จากคณะกรรมการคือข้อเท็จจริงว่าข้าราชการคนไหนดี คนไหนชั่ว คนไหนควรถูกจัดการ แค่นี้คิดว่าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความมั่นใจเราเกิดขึ้น เพราะการรื้อหรือไม่รื้ออยู่ที่ตัวบทกฎหมาย ถ้ามันไม่เอื้อให้รื้อก็อย่าไปคาดคั้น แต่การสอบสวนครั้งนี้โดยเฉพาะคณะของอาจารย์วิชา จะออกมาบอกได้ว่าคนนี้เป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็จะได้รู้ว่าอ๋อ คนนี้มันเลว คนนี้ชั่ว คนนี้้ใช้ได้ คนชั่วต้องถูกจัดการ อีกอย่างประชาชนเรากินข้าวหอมมะลิเนอะ ไม่ได้กินแกลบ กินหญ้า ก็พอจะมองออกว่าอะไรเป็นอะไร"

กรณีพลตำรวจโทศานิตย์ และคุณธานี พูดจาไม่ตรงกัน?
ดร.เสรี : "ถ้าพูดแรงก็คือมีคนโกหกหนึ่งคน หรือจะพูดให้เบา คือมีคนพูดไม่จริงหนึ่งคน ด้วยความเกรงใจ จะขอบอกว่ามีคนนึงพูดจริง คนนึงพูดไม่จริง มีคนนึงเขาพูดจาด้วยอารมณ์ อีกคนราบเรียบในการบอกความเป็นจริง อีกคนพูดจาด้วยอารมณ์ โกรธ โมโห เราฟังแล้วก็โมโหนะ ที่เขาบอกว่าสื่อมวลชนก็ดี ประชาชนก็ดี ใช้จินตนาการมโน พวกเขาทำงานด้วยหลักฐาน ตกลงเรามโน ใช้จินตนาการตรงไหนเหรอ ในเมื่อสงสัยว่าตี 5 พลอากาศโทไปอยู่บนถนนสุขุมวิทเพื่ออะไร รถยับเยินขนาดนี้ ขับ 79 มโนเหรอ นี่ไม่ได้มโนนะ พี่ว่าตรรกะธรรมชาติ"
ทนาย : "เห็นว่าที่ต้องไปแถลงเมื่อวานเพราะมีคนไปกดดันเขา นักข่าวตามสัมภาษณ์มาหลายวันแล้ว อยากสัมภาษณ์กรรมาธิการชุดที่แล้วหลายวันแล้ว แต่ไม่มีใครยอมพูด จนต้องไปถามตร. เขาพูดคนเดียวมาตลอด จนเอวานกดดันหนัก เขาเลยแถลง เขาไม่ได้อยากพูดนะ นักข่าวโทรหาเขาบ่อย เขาเลยรำคาญ เลยแถลง"
จุดพลิกคดีนี้อยู่ที่คณะกรรมาธิการของสนช. ไม่ใช่เหรอ?
ทนาย : "ส่วนหนึ่ง เพราะต้องยอมรับนะ ตอนแรกอัยการสูงสุดท่านปัดตกหมดเลยนะ จนเขารำคาญว่าไม่ต้องส่งมาแล้วนะ เขาก็ไปยื่นกรรมาธิการกฎหมายสนช. พอยื่นเสร็จปุ๊บ รอบหลังเลยให้อีกรอบ ให้สอบใหม่ พยาน 7 ปีก็เลยโผล่มา ซึ่งพยาน 7 ปีก็มีปัญหา ตร.บางท่านบอกว่าเคยปรากฎในสำนวน แต่พอมาถามอีกท่านไม่เคยปรากฎในสำนวน แต่อัยการสั่งสอบเอง ตกลงผมต้องเชื่อใคร ทำไมชี้แจงไปคนละทาง ไม่คุยไลน์กันก่อน วันนั้นนั่งดูนักวิชาการที่คำนวณได้ 77 เขาพยายามอธิบายทางฟิสิกส์ ผมทำคดีมาเยอะ ฟังอยู่ครึ่งชม. บอกเลยว่าไม่เข้าใจ ผมเลยเข้าใจว่ากรรมาธิการสนช.เข้าใจวิธีคิดหรือเปล่า ผมนั่งฟังอยู่ยังไม่รู้เรื่องเลย (หัวเราะ)"
ดร.เสรี : "ฟังข่าวเมื่อเช้าเขาบอกมี 3 ลู่ทาง เพราะคำสั่งเป็นของรองอัยการสูงสุด อาจเรียกมาทบทวน สองคนต้องการให้รื้ออาจต้องไปหาพยานใหม่มา สามเขาจะรอผลสรุปอาจารย์วิชานี่แหละ มันยาก แต่ขอวิงวอนตรงนี้ กรุณาอย่าไปคาดหวัง เมื่อรื้อไม่ได้แล้วด่า ให้ดูตัวบทกฎหมายเนอะ แต่อย่างน้อยที่สุดได้รู้ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ ก็ทำให้ความมั่นใจเราดีขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยที่สุดถ้าเราทำให้หน่วยงานสองหน่วยงานนี้ไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีก ก็ถือว่าได้แล้ว ถ้าทำให้ตาชั่งดีขึ้น สองหน่วยงานนี้ไม่กล้าทำอีก นั่นคือเราได้แล้ว ไม่เสียของแล้ว"
รองอัยการสูงสุดหายไปไหน?
ทนาย : "ทุกวันนี้ก็หาตัวอยู่ และมีประชาชนเป็นร้อยติดต่อมาหาผมบอกผมก็ประมาทร่วม ทำไมอัยการฟ้องผม คนหามาตลอด เพราะนักศึกษากฎหมายทั้งประเทศรอฟังอยู่"
ดร.เสรี : "รอดูว่า 5 ส.ค. จะมามั้ย"