svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตร.แจงกมธ.เอาผิดเมาแล้วขับ 'บอส' ไม่ได้ ยันยาผสมโคเคนใช้รักษาฟัน

หมอฟัน ร่วมกับตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าชี้แจงต่อ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และการสิทธิมนุษยชน โดยยืนยันหมอฟันไม่ผสมโคเคนในยารักษา ร่วมในประเด็นสั้งไม่ฟ้อง คดีบอส อยู่วิทยา

เมื่อวันที่30 ก.ค. 2563ที่รัฐสภามีการประชุมคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร มีนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยเชิญพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดีมาให้ข้อมูลต่อกมธ. กรณีไม่แย้งคำสั่งอัยการที่ไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยาหรือ"บอสอยู่วิทยา"ที่ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อเมื่อปี 2555

ภายหลังการประชุม นายนิโรธแถลงว่า กมธ.สอบถามตำรวจหลายประเด็น โดยกรณีไม่สามารถเอาผิดข้อหาเมาแล้วขับนายวรยุทธได้รับคำชี้แจงว่าเนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์หลังเกิดเหตุได้ทันทีเพราะผู้ต้องหาขับรถหลบหนีเข้าบ้าน ตำรวจทำได้เพียงล้อมบ้านไว้กว่าจะได้หมายศาลไปตรวจค้นบ้าน นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจแอลกอฮอล์ ก็เป็นเวลา 16.00น. ทิ้งเวลาจากตอนเกิดเหตุถึง 10 ชั่วโมงซึ่งตามกฎหมายระบุว่า การจะนำคดีตรวจสอบแอลกอฮอล์สู่ศาลได้ต้องตรวจวัดทันทีหลังเกิดเหตุ ทำให้ไม่สามารถเอาผิดกรณีนี้ได้

ตร.แจงกมธ.เอาผิดเมาแล้วขับ 'บอส' ไม่ได้ ยันยาผสมโคเคนใช้รักษาฟัน

นายนิโรธ กล่าวว่าส่วนเรื่องความเร็วรถยนต์นั้น ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีหน่วยงานที่ตรวจสอบความเร็ว 3 หน่วย

1. กองพิสูจน์หลักฐาน ใช้หลักฟิสิกส์ ดูหลักการปะทะจะมีความเร็วความแรงแค่ไหน ผลเบื้องต้นพบ น่าจะมีความเร็วเกิน 80กม./ชม.


2. อาจารย์มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือใช้หลักวิศวกรคำนวณจากกล้องวงจรปิด พบความเร็วอยู่ที่ 80กม./ชม.


3. อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้หลักวิศวกรคำนวณจากกล้องวงจรปิดเช่นกัน พบความเร็ว 177กม./ชม.

เมื่อข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญความเร็วต่างกันอัยการจึงเชิญกองพิสูจน์หลักฐานและอาจารย์จุฬาฯ มาให้ข้อมูลอีกครั้ง ทั้ง2หน่วยงานยอมรับว่า น่าจะคำนวณความเร็วผิดพลาด เพราะไม่ได้หักลบค่าเลนส์ที่กล้อง อัยการจึงเห็นว่าควรหาประจักษ์พยานเพิ่มเติม เป็นเหตุให้มีพยานเพิ่มอีก 2 ปากคือ

ตร.แจงกมธ.เอาผิดเมาแล้วขับ 'บอส' ไม่ได้ ยันยาผสมโคเคนใช้รักษาฟัน

1.นายจารุชาติ มาดทองเป็นพยานที่อยู่ในสำนวนแต่แรกอแล้ว และยืนยันว่าผู้ต้องหาขับรถไม่น่าจะเร็ว

2.พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตรเป็นพยานที่อัยการให้ตำรวจไปสอบเพิ่มเติม เพราะก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาขอให้ตำรวจสอบพยานรายนี้แต่ตำรวจบอกว่า ทำสำนวนเสร็จแล้ว ถ้าจะให้สอบเพิ่มให้ไปร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการ เพื่อให้มีคำสั่งสอบพยานเพิ่มเติมในที่สุดอัยการสั่งให้สอบพยานรายนี้เพิ่มเติม จนนำไปสู่ประเด็นข่าวอย่างที่ออกมา


อย่างไรก็ตาม กมธ.มองว่า คดีนี้ ไม่น่าจะถูกต้อง ไม่น่าจะชอบธรรมจึงฝากข้อสังเกตไปยังตำรวจให้ตรวจสอบรายละเอียดที่ขาดตกบกพร่องอยู่

ตร.แจงกมธ.เอาผิดเมาแล้วขับ 'บอส' ไม่ได้ ยันยาผสมโคเคนใช้รักษาฟัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจหมอฟัน ชี้ยาชาไม่สามารถแสดงผลเป็นโคเคนได้!


นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย โฆษกกมธ.ตำรวจกล่าวว่าเรื่องสารเสพติดโคเคนที่พบในตัวผู้ต้องหานั้นพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า ได้รับการยืนยันจากหมอฟันว่าสารที่ตรวจพบในร่างกายนายวรยุทธ เป็นยาที่ให้ผู้ต้องหาในการรักษาฟันที่มีส่วนผสมของสารโคเคนอยู่ทำให้ไม่สั่งฟ้องเรื่องสารเสพติดส่วนการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ต้องหา หลังจากเกิดเหตุไปแล้ว 10 ชั่วโมงก็ยังพบปริมาณแอลกอฮอล์ 60 มิลลิกรัม แต่ผู้ต้องหายืนยัน เป็นการดื่มหลังเกิดเหตุ เพราะเครียดไม่ได้ดื่มสุราระหว่างขับรถ แต่กมธ.ยังติดใจว่า ช่วงเวลาที่ห่างกัน 10 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไปกินอาหารหรืออะไรบางอย่างเพื่อให้ปริมาณแอลกอฮอล์ลดลงหรือไม่

ส่วนการรื้อฟื้นคดีใหม่นั้นกมธ.ทราบว่า ตำรวจที่เสียชีวิตมีภรรยาแต่หย่า ไม่มีบุตร มีเพียงญาติพี่น้อง 5 คนตอนแรกมีการตกลงจะให้ค่าเยียวยา 6ล้านบาท แต่มีการต่อรองเหลือ 3 ล้านบาทต้องไปดูว่า มีการถูกขู่บังคับไม่ให้ติดใจเอาความหรือไม่ กมธ.จะไปพบญาติเพื่อสอบถามว่า ยังติดใจในคดีหรือไม่ พร้อมทั้งจะบอกถึงช่องทางการรื้อฟื้นคดีได้ถ้ามีหลักฐานใหม่