โฆษกเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ แถลงวันนี้ว่า ชายชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์วัย 24 ปี ที่ข้ามพรมแดนเข้ามาอยู่ในเกาหลีใต้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ลอบข้ามพรมแดนกลับเข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือโดยลอดผ่านท่อระบายน้ำใต้รั้วลวดหนามที่มีหน่วยลาดตระเวนชายแดนเฝ้าอยู่บนเกาะคังฮวาของเกาหลีใต้ โดยพบหลักฐานที่เชื่อว่าเป็นกระเป๋าของเขาตกอยู่บนเกาะ ท่อระบายน้ำทอดยาวไปถึงปากแม่น้ำฮันของเกาหลีใต้ใกล้กับทะเลเหลือง จากนั้นคาดว่าเขาว่ายน้ำราว 1.6 กม.ไปขึ้นฝั่งในเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเกาหลีใต้ ยืนยันว่า ชายคนนี้ไม่เคยขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยโควิด-19 และไม่เคยถูกระบุว่าเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน และผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับผู้สัมผัสใกล้ชิดกับเขาสองคน ก็มีผลเป็นลบทั้งคู่
คำยืนยันนี้มีขึ้นหลังจากสำนักข่าวกลางเกาหลีของทางทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่าชายแปรพักตร์คนนี้ลอบข้ามเส้นปักกันเขตแดนเข้าไปในเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เขากลับไปที่บ้านเกิดในเมืองแกซองโดยมีอาการป่วยที่สงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19และอาจเป็นผู้ป่วยรายแรกของเกาหลีเหนือ ทำให้คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและสั่งล็อกดาวน์ทั้งเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ขณะที่ตำรวจเกาหลีใต้ เปิดเผยด้วยว่า ได้รับเบาะแสเกี่ยวกับชายแปรพักตร์คนนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาวางแผนกลับไปเกาหลีเหนือ จึงไม่อนุญาตให้ออกจากเกาหลีใต้ และเขากำลังถูกสอบสวนคดีที่ต้องสงสัยว่าข่มขืนหญิงชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์คนหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว