จากการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ด.ต.มังกร เล่าว่าน่าจะมาจากเรื่องที่ตนเป็นพยานสำคัญกรณีที่หลานตนเองชื่อ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) อายุเพียง 13 ปี เคยถูก ร.ต.อ.คนหนึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงรอง สว. (สอบสวน) สังกัด สภ.ดอนแรด จ.สุรินทร์ "กระทำชำเราเหตุเกิดบริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ต.อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษช่วงเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาภายหลังญาติ ๆทราบเรื่อง ตนพร้อมด้วยนางรัตนนา มูลคำ แม่ของ ด.ญ.จ๋า (นามสมติ)ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้ก่อนที่ ด.ญ.จ๋า(นามสมมติ) จะถูกนายตำรวจคนดังกล่าวกระทำชำเรานั้น ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ)ได้เคยเป็นคู่หมั้นกับนายณัฐพล ทาทอง ลูกชายนางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ อายุ 63 ปี ครั้งนั้นญาติพี่น้องทั้ง 2ฝ่ายได้ทำบันทึกสัญญาข้อตกลงการหมั้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 โดยฝ่ายญาติด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ได้เรียกสินสอด เป็นเงินสด สามแสนห้าหมื่นบาท และทองหนัก 3 บาทซึ่งในสัญญาระบุว่า การหมั้นครั้งนั้นฝ่ายชายได้วางเงินหมั้นไว้ก่อน หนึ่งแสนบาทคงเหลือ สองแสนห้าหมื่นบาทพร้อมทองหนัก 3 บาทและให้นำเงินสินสอดที่เหลือมาให้ครบภายใน 30 มิถุนายน 2560และจะมีกำหนดการแต่งงานเมื่อ ด.ญ.จ๋าเรียนจบชั้น ม.3 ก่อน
ด.ต.มังกร กล่าวอีกว่าเรื่องที่ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) หลานของตนอายุไม่ถึง 13 ปี ที่ถูกนายตำรวจคนดังกล่าว กระทำชำเรานั้น ทำให้นางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ แม่ของนายณัฐพล ทาทองรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม จึงได้ทำหนังสือร้องต่อ ตำรวจภาค 3 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 ซึ่งครั้งนั้น ทางตำรวจภูธรภาค 3 กรรมการสอบสวนและมีหนังสือแจ้งมาว่า ผลการสอบข้อเท็จจริงและคำให้การของนางรัตนา คูคำ และ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ไม่ปรากฏว่า ร.ต.อ.คนดังกล่าวว่ามีพฤติกรรมว่ามีการกระทำชำเราแต่อย่างใด กระทั้งนางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ เห็นว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงทำหนังสือร้องถึงจเรตำรวจแห่งชาติ ให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ใหม่ เพราะพบหลักฐานสำคัญที่ สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ว่ามีการส่งตัว ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ไปให้แพทย์ตรวจ และพบหลักฐานสำคัญ ที่ ตกลงยินยอมจ่ายเงินให้ร.ต.อ.คนดังกล่าวกับนางรัตนา คูคำ แม่ของ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) เป็นเงินสด จำนวน ห้าหมื่นบาท จากที่เคยตกลงยินยอมค่าเสียหายเป็นเงิน สองแสนห้า หลังมีการร้องเรียนขึ้นมาอีกครั้งทำให้สารวัตรใหญ่ สภ.ดอนแรดพยายามเรียกตนเข้าพบและให้ช่วยเหลือ ร.ต.อ.คนดังกล่าวเรื่อยมา แต่ตนไม่ยอมเพราะคิดว่า จะเป็นการช่วยเหลือคนผิดจึงถูกกล่าวหาว่าตนเป็นคนสร้างความแตกแยกในโรงพัก และกล่าวหาว่าตนลักลอบเล่นการพนันในโรงพัก อาจเป็นสาเหตุการถูกสั่งย้ายในครั้งนี้
นายทองฮวย อาจหาญ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 65 ม.6 ชาวบ้านในบ้านแต้ กล่าวว่า นายดาบเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมในหมู่บ้านและช่วยดูแลความสงบในหมู่บ้านด้วย จึงไม่คิดว่านาดาบจะเป็นคนสร้างความแตกแยกในหมู่คณะได้
ขณะที่นางธนะวรรณ ไชยเซษฐ ภรรยาของ ด.ต.มังกร ราชสะอาดกล่าวว่า หลังได้รับทราบคำสั่งตนและครอบครัวมีความเครียดมาก หลังข่าวการย้ายพ่อแพร่กระจายออกไปทำให้ลูกสาวตนไม่อยากไปโรงเรียน ตอนนี้รู้สึกสงสารลูกมาก นอกจากนี้ตนและสามีต้องดูแลแม่ที่ป่วยผ่าตัดต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ครอบครัวก็ต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว การย้ายครั้งนี้เหมือนถูกกลั่นแกล้งตนอยากขอความเป็นธรรมให้สามีครั้งนี้ด้วย อยากถามถึงสารวัตรใหญ่ สภ.ดอนแรด ว่าคนทีทำผิดทำไมไม่ย้ายแต่มาย้ายสามีตนซึ่งเป็นพยานในเรื่องการ ร.ต.อ.ที่กระทำชำเราหลานเขาตนจะร้องเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด