svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

"ปิดสถานกงสุล" จุดเริ่มต้นและจุดจบสัมพันธ์ "จีน-สหรัฐฯ" ?

25 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ มากเท่าไหร่ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เห็นได้ชัดจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทั้งสองประเทศต่างก็สั่งปิดสถานกงสุลของอีกฝ่าย ตอบโต้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยเริ่มจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งให้จีนปิดสถานกงสุลประจำเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสภายในเวลา 72 ชั่วโมง

สถานกงสุลที่เมืองฮุสตันถือเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพราะที่นี่เป็นสถานกงสุลแห่งแรกหลังสองประเทศกลับมาสานความสัมพันธ์เมื่อกว่า 40 ปีก่อน แต่เมื่อดูจากความตึงเครียดระลอกล่าสุดแล้ว สถานกงสุลแห่งนี้อาจต้องกลายเป็นสัญลักษณ์ของจุดจบแห่งความสัมพันธ์ก็เป็นได้
สหรัฐฯ กับจีนแผ่นดินใหญ่ที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2522 โดยหลังจากเปิดทำการสถานเอกอัครราชทูตในกรุงวอชิงตันดีซีแล้ว จีนยังได้เปิดสถานกงสุลแห่งแรกไว้ที่เมืองฮุสตันด้วย
ปัจจุบันจีนมีสถานกงสุลในสหรัฐฯ ทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ ฮุสตัน, ซานฟรานซิสโก, นิวยอร์ก,ชิคาโก, และลอสแองเจลิส โดยสถานกงสุลที่ฮุสตันมีภารกิจครอบคลุม 9 รัฐและดินแดน ได้แก่ เท็กซัส, โอกลาโฮมา, หลุยเซียนา, อาร์คันซอ, มิสซิสซิปปี, อลาบามา, จอร์เจีย, ฟลอริดา, และเปอร์โตริโก

"ปิดสถานกงสุล" จุดเริ่มต้นและจุดจบสัมพันธ์ "จีน-สหรัฐฯ" ?


ภารกิจของสถานกงสุลที่ฮุสตันมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากเท็กซัสเป็นหนึ่งในรัฐผู้ส่งออกน้ำมันมากที่สุดในประเทศ ขณะที่จีนเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลกและจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการในประเทศทั้งหมด
ขณะเดียวกันภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งเพื่อหวังสงบศึกการค้าเมื่อต้นปีนี้ จีนได้เสนอซื้อผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีแรก และอีกเกือบ 3 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่สอง

"ปิดสถานกงสุล" จุดเริ่มต้นและจุดจบสัมพันธ์ "จีน-สหรัฐฯ" ?

นอกจากนี้สถานกงสุลที่ฮุสตันยังเคยเป็นจุดศูนย์กลางของความตึงเครียดทางการทูตมาแล้วหลายครั้ง อย่างในปี 2560 และ 2561 ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวินของไต้หวันได้เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่เมืองฮุสตันท่ามกลางการประท้วงอย่างหนักของจีน, ในปี 2561 เจ้าหน้าที่ด้านการสำรวจอวกาศชื่อดังของจีนถูกปฏิเสธวีซ่าไม่ให้เข้าร่วมงานสัมมนาในรัฐเท็กซัส, และเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว สถานกงสุลได้ออกแถลงการณ์ประณามผู้จัดการทีมบาสเก็ตบอล"ฮุสตันร็อคเก็ตส์" ที่ไปโพสต์สนับสนุนผู้ชุมนุมฮ่องกงทางทวิตเตอร์
ในทางกลับกัน สถานกงสุลแห่งนี้ก็มีบทบาทในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจีนในสายตาของชาวอเมริกันในช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วยการบริจาคหน้ากากอนามัยและเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับสถานพยาบาลในพื้นที่

"ปิดสถานกงสุล" จุดเริ่มต้นและจุดจบสัมพันธ์ "จีน-สหรัฐฯ" ?


จากสถานกงสุลที่เปิดทำการเป็นแห่งแรก มาวันนี้สถานกงสุลประจำฮุสตันได้กลายเป็นแห่งแรกที่ถูกสั่งปิด ด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นศูนย์กลางของ "กิจกรรมบ่อนทำลายสหรัฐฯ" ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า เพิ่งมีผู้ไม่หวังดีขู่ฆ่าและขู่วางระเบิดสถานทูตและสถานกงสุลเมื่อไม่นานมานี้

สหรัฐฯ กับจีนกำลังเผชิญหน้ากันในแทบทุกเรื่อง ตั้งแต่สงครามการค้า, อาวุธนิวเคลียร์, ทะเลจีนใต้, ฮ่องกง, ซินเจียงอุยกูร์, ทิเบต, หัวเว่ย, ทรัพย์สินทางปัญญา, สื่อมวลชน, ไปจนถึงโควิด-19 จนผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งคำถามว่า ยังเหลือประเด็นใดอีกบ้างที่ทั้งสองประเทศยังไม่ได้ทะเลาะกัน และความขัดแย้งครั้งนี้จะไปสิ้นสุดที่จุดไหน
แดเนียล รัสเซลล์ รองประธานสถาบันคลังสมองด้านนโยบาย "เอเชีย โซไซตี" และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่า การสั่งปิดสถานกงสุลจะส่งผลให้ช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างสองประเทศที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งลดลงไปอีก และความเคลื่อนไหวครั้งนี้หากเดินหน้าแล้ว...ยากที่จะหวนกลับ

"ปิดสถานกงสุล" จุดเริ่มต้นและจุดจบสัมพันธ์ "จีน-สหรัฐฯ" ?

logoline