ซีเอ็นเอ็นยังได้เห็นเนื้อหาในจดหมายที่สน.ทองหล่อส่งไปยังบ้านของนายวรยุทธในกรุงเทพมหานครด้วย โดยระบุว่า สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้องดำเนินคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่คัดค้านคำสั่งของอัยการ และเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ขออนุมัติศาล เพิกถอนหมายจับแล้ว
ทั้งนี้ นายวรยุทธ หรือ บอส ซึ่งตอนนี้อายุ 28 ปีแล้ว เป็นผู้ขับรถยนต์เฟอร์รารี่ ที่เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ ซึ่งออกมาปฏิบัติหน้าที่หลังได้รับแจ้งเหตุลักขโมย เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ทำให้ด.ต.วิเชียรเสียชีวิต ส่วนนายบอส ถูกตั้งข้อหาขับรถขณะมึนเมา, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน
นายบอสถูกจับกุมหลังจากตำรวจตามรอยน้ำมันที่รั่วเป็นทางจากที่เกิดเหตุไปถึงบ้านของเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปิดล้อมบ้านหลังนี้กระทั่งได้หมายค้น ซึ่งพวกเขาพบรถเฟอร์รารี่ในสภาพเสียหายยับเยินภายในบ้าน และแอร์แบ็กทำงานแล้ว ขณะที่นายบอสยอมรับว่าขับรถและชนจักรยานยนต์จริง แต่เขาอ้างว่าจักรยานยนต์เป็นฝ่ายขับตัดหน้า หลังจากนั้นนายบอสก็ได้ประกันตัวด้วยวงเงิน 500,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นอัยการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และขับรถโดยขณะมึนเมา เนื่องจากหลักฐานไม่ชัดเจน ขณะที่นายบอสก็ขอเลื่อนนัดศาลมากกว่า 5 ครั้ง อ้างว่าอยู่ต่างประเทศ กระทั่งข้อหา ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน หมดอายุความเมื่อ 3 ก.ย. 2560
อนึ่ง ซีเอ็นเอ็น รายงานด้วยว่า คดีทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจขึ้นในประเทศไทย ที่ระบบยุติธรรมโอนอ่อนผ่อนผันให้แก่จำเลยที่มีฐานะร่ำรวยและมีเส้นสาย รวมถึงมีการกล่าวหาด้วยว่า เกิดความพยายามปกปิดการกระทำผิด ซึ่งตำรวจที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้ต้องสงสัยคนอื่นที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ขับรถเฟอร์รารี่ดังกล่าว ยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจมากขึ้นไปอีก ขณะที่มีข่าวว่า ครอบครัวของนายบอส จ่ายเงินให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อชะลอการฟ้องร้องด้วย