svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ปิดฉาก 'ค่าโง่โฮปเวลล์' รัฐต้องจ่าย 2.4 หมื่นล้าน

22 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลปกครองสูงสุดตัดสินยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องคมนาคม-การรถไฟฯ ที่ขอให้รื้อคดี 'ค่าโง่โฮปเวลล์' ปิดฉากรัฐต้องจ่าย 2.4 หมื่นล้าน ให้กับบริษัทโฮปเวลล์

วันนี้ 22 ก.ค.63 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ขอให้รื้อคดีที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดไปว่า กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ต้องคืนค่าตอบแทน ที่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการพร้อมดอกเบี้ยราว 2.4 หมื่นล้านบาท ให้กับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย)จำกัด
โดยคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 หมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 กันยายน 2551 ที่ให้ผู้ร้องทั้งสองคืนเงินค่าตอบแทนที่ผู้คัดค้านชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการ พร้อมดอกเบี้ย ให้แก่ผู้คัดค้าน
โดยผู้ร้องทั้งสองได้มีคำร้องยื่นต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่าศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด และมีพยานหลักฐานใหม่อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประเด็นที่ผู้ร้องทั้งสองโต้แย้งเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้สิทธิเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ การเลิกกันของสัญญาพิพาท และการกลับคืนสู่ฐานะเดิมของผู้ร้องทั้งสองและผู้คัดค้านมีลักษณะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิพากษาคดีและผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และที่ผู้ร้องทั้งสองโต้แย้งเรื่องความสามารถของผู้คัดค้านในขณะเข้าทำสัญญานั้น เป็นประเด็นที่ผู้ร้องมิเคยโต้แย้งมาก่อนทั้งในศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งไม่อาจถือได้ว่าผู้ร้องทั้งสองไม่ทราบถึงเหตุนั้นในการพิจารณา จึงถือมิได้ว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่


อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ และประการสุดท้าย การที่ผู้ร้องอ้างว่ามีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 143/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน "กรณีโฮปเวลล์" ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ซึ่งเอกสารฉบับดังกล่าวผู้ร้องก็มิได้แสดงต่อศาลแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา ผู้ร้องทั้งสองจึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด

logoline