ยอดติดเชื้อบราซิลทะลุ 2 ล้าน/อินเดีย 1 ล้าน

บราซิลซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ ได้ทำสถิติผู้ติดเชื้อผ่านหลัก 2 ล้านคนแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดี โดยใช้เวลาเพียง 27 วัน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละเกือบ 40,000 คน ซึ่งเร็วกว่าตัวเลขของสหรัฐฯ ที่ใช้เวลา 43 วัน ในการผ่านจากหลัก 1 ล้านคน ไปเป็น 2 ล้านคน

จากตัวเลขอย่างเป็นทางการ บราซิลที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในละติน อเมริกา และมีประชากรราว 210 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของประชากรของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้าน 1 หมื่นคน เสียชีวิตมากกว่า 7 หมื่น 6 พันคน และแม้ว่าการระบาดจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ประธานาธิบดีโบลโนซารู ที่ผลการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ยังคงยืนยันว่าเขาติดเชื้อ กลับพยายามกดดันรัฐบาลท้องถิ่น ให้ยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ ไม่สนใจความเสี่ยงต่อสุขภาพของพลเมือง และต่อต้านมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยอ้างว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะเลวร้ายยิ่งกว่าการระบาดของโรค ซึ่งส่งผลให้หลายเมืองยอมผ่อนคลายมาตรการเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ ที่ยิ่งส่งผลให้การระบาดลุกลามหนักขึ้น

ด้านอินเดีย ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดัน 3 ก็ทะลุหลัก 1 ล้านคนแล้วเช่นกัน ในวันนี้หลังกระทรวงสาธารณสุขรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 34,956 คน เมื่อช่วง 24 ช.ม.ก่อน และนับเป็นวิกฤตซ้ำซ้อน ที่นอกจากประชาชนจะติดเชื้อเป็นจำนวนมากแล้ว ก็ยังได้รับผลกระทบหนักทางด้านเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากมาตรการล็อคดาวน์ ที่ทำให้คนตกงานกันเป็นจำนวนมาก

มีรายงานว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการหนัก จะไม่ได้รับเหลียวแลจากโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน เพราะขาดแคลนทั้งเตียงผู้ป่วย บุคลากรและอุปกรณ์ และถูกนำไปเปรียบเทียบกับอมิตาป ปัจจัน ที่ติดเชื้อเช่นกัน แต่ได้รับการปฏิบัติที่ต่างกันอย่างมากแสดงให้เห็นช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่มีความเท่าเทียมมากที่สุดในโลก จากการที่ประชากรแค่ 10% กุมความมั่งคั่ง 77% ของประเทศเอาไว้ในมือ และพื้นที่ที่ไม่เท่าเทียมที่สุดคือ ย่านชุมชนแออัดที่เต็มไปด้วยประชากรฐานะยากจนราว 74 ล้านคน ที่การเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีน้ำประปาใช้และขาดสุขอนามัยที่ดี ที่ทำให้ชีวิตของพวกเขายิ่งเสี่ยงมากขึ้น