ผู้ติดเชื้อโตเกียวพุ่ง-ไมโครเวฟไม่ฆ่าเชื้อ

นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อ 24 ช.ม. ก่อนว่า สูงเกิน 280 คน ทำสถิติสูงที่สุดในวันเดียว และมากกว่าสถิติเดิมเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่อยู่ที่ 243 คน พร้อมเตือนภัยในระดับสูงสุด เพราะเข้าใกล้ 300 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มการระบาด นางโคอิเกะ บอกด้วยว่า ได้ทำการทดสอบหาเชื้อแล้วกว่า 4,000 คน สูงที่สุดในวันเดียวเช่นกัน และสถิติใหม่นี้ เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังเตรียมจะผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ ให้เร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแม้จะไม่เคยมีการล็อคดาวน์ เพราะมีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 23,000 คน และเสียชีวิตไม่ถึง 1 พันคน แต่ทางการก็ขอร้องให้ภาคธุรกิจปิดทำการและให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน

ส่วนเรื่องที่มีการตั้งคำถามว่า ถ้าไวรัสอยู่บนภาชนะบรรจุอาหาร เมื่อนำไปใส่ไมโครเวฟ มันจะถูกทำลายหรือไม่นั้น ศาสตราจารย์ซูงาวาระ เอริสะ ผู้เชี่ยวชาญการป้องกันการติดเชื้อของสถาบันบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยโตเกียว เฮลธ์แคร์ ระบุว่า อาหารที่อุ่นในเตาไมโครเวฟมีความปลอดภัยพอที่จะรับประทาน แต่การทำงานของไมโครเวฟ คือการทำให้เกิดการเสียดสีกันของโมเลกุล จึงเกิดความร้อนและทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจไม่ทำให้ผิวหน้าของภาชนะที่บรรจุได้รับความร้อนเพียงพอเสมอไป 

จึงไม่อาจบอกได้ว่า ไวรัสที่อยู่บนพื้นผิวจะถูกกำจัดหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือการล้างมือบ่อยๆ หลังทำอาหารและรับประทานอาหาร ส่วนในกรณีอาหารแช่แข็ง ศาสตาจารย์ซูงาวาระบอกว่า ผลการศึกษาของนานาชาติเกี่ยวกับไวรัสโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือ ซาร์ส ชี้ว่า ไวรัสถูกกำจัดในระยะเวลาอันสั้นภายใต้อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสแต่จะอยู่รอดได้ถึง 3 สัปดาห์ ถ้าอยู่ในอุณหภูมิลบ 80 องศาเซลเซียส ส่วนโควิด-19 มีแนวโน้มว่าจะอ่อนแอกับอุณหภูมิที่ร้อนจัด และจะแข็งแกร่งกับอุณหภูมิเย็นจัด เช่นถ้ามันอยู่บนพื้นผิวของสินค้าประเภทของชำ มันอาจอยู่รอดในตู้เย็นหรือช่องฟรีส เป็นเวลายาวนาน ดังนั้นจึงควรฆ่าเชื้อก่อนนำเข้าตู้เย็น และล้างมือก่อนปรุงอาหาร