svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก

16 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เรื่องราวความอุตสาหะในการเดินทางมาเรียนของ เด็กชายตะวัน แก้วดำ ที่คุณครูได้เล่าเรื่องราวความพยายามในการเดินทางมาเรียน ที่น้องต้องผ่านห้วย เหว ภูเขาลำเนาไพร รวมถึงข้ามน้ำข้ามคลอง ล่าสุดได้รับความช่วยเหลือ จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น

ก่อนหน้านี้ ในเพจเฟสบุ๊ก ภิญญดา หิมวรรณวงษ์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความของ เด็กชายตะวัน แก้วดำ สตอรี่ของเด็กชายตัวเล็ก ซึ่งระบุว่า เรื่องเล่าเย็นวันจันทร์ ครูออกเยี่ยมบ้าน เด็กชายตะวันอาสาพาครูเมย์และครูเจินไปเยี่ยมบ้านของเพื่อนๆในระเเวกบ้านใกล้เคียงของตัวเอง เราออกเดินทางไปยังบ้านสวนปราง ต.คลองสระ เวลา 16.00 น. เราผ่านห้วย เหว ภูเขาลำเนาไพร รวมถึงข้ามน้ำข้ามคลองกัน จนเยี่ยมบ้านหลังที่ 1 2 3 4 และ 5 สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงเวลาต้องไปส่งเด็กน้อยผู้อาสาพาครูไป

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก

ทั้งนี้ได้โพสต์เล่าเกี่ยวกับ บทสนทนา ระหว่างทางไปบ้านของตะวัน
ครูเมย์ : บ้านตะวันอยู่ใกล้ไม่ค่ะ (คำแรกที่ครู ผู้หญิง 2 คน กับรถเก๋งโหลดต่ำคู่ใจถาม)
วิธีง่ายๆที่จะช่วยให้น้องชายแข็งแรง แม้อายุ 60 ปี! (ดื่มนี่ก่อนนอน)
ตะวัน : ครูครับ เดี๋ยวครูส่งผมที่ถนนราดปูนก็พอ รถครูต่ำมันขึ้นไม่ได้แน่ ถนนก็ลำบาก ขึ้นควนลงควนเลยครู ไกลอีก
ครูเจิน : แล้วตะวันอยู่กับใคร
ตะวัน : พ่อกับแม่ครับ
ครูเมย์ : พ่อกับแม่ทำงานอะไร แล้วทำไมมาอยู่ในหุบเขาแบบนี้
ตะวัน : พ่อกับแม่รับจ้างครับ มาอยู่บนนี้ไม่มีค่าเช่าบ้าน แต่ไม่มีไฟใข้ครับครู
ครูเมย์ : ไฟเข้าไม่ถึงเหรอ
ตะวัน : คนก่อนที่มาอยู่ เขาไม่จ่ายค่าไฟครับ เขาบอกแม่ว่าถ้าอยากใช้ไฟ ต้องเอาตังค์ไปจ่ายเกือบ 2,000 ครับ
ครูเมย์และครูเจิน เงียบกันไปพักหนึ่ง และเมื่อเราทั้ง 2 คน ตัดสินใจกันแล้วว่าไกลแค่ไหนต้องไปให้ถึง ให้เห็นกับตา ถึงจะลำบากก็ไม่กลัว
ตะวัน : ถึงแล้วครับบ้านผม
ครูเมย์ : สองข้างทางมีแค่ป่า กับภูเขา ไม่เห็นบ้านสักหลัง ฝนก็เริ่มตกหนัก
ตะวัน : รถลงไม่ได้ครับ ต้องเดินเข้าไป บ้านไม่มีไฟ ครูกลับก่อนก็ได้ ไม่เป็นไรครับ
ครูเจิน : ไป มาแล้วต้องไปให้ถึง
เราสองคนเดินเท้าลงไป ลงเขา ขึ้นเขา ทางลาดชัน ฝนตกโปรย ๆ ต้องหลบหลีกทางที่ลื่นไหล จนถึงบ้านตะวัน
ครูเจิน : ไม่มีใครอยู่เลยไปไหนกันหมด (ขณะนั้นเวลา 18.20 น.)

ครูเมย์ : ทำไมแม่ไม่หาบ้านเช่าแถว ๆ โรงเรียนละตะวัน
ตะวัน : หาแล้วครับ 3 วันแล้ว ไม่มีบ้านว่างเลย ที่มีก็เดือนละ 2,000 - 3,000 บางวันแม่มีไม่ถึงร้อยครับครู
 ครูเมย์ : ลูกเอ๋ย ตั้งใจเรียนนะตะวัน สักวันเราต้องมีในสิ่งที่เราไม่เคยมี เห้อ เด็กที่ตั้งใจเรียนหนังสือ โตขึ้นจะได้มีงานดีดีทำนะ
ครูเจิน : ลูกเอ๋ยยย
ตะวัน : #ก่อนเปิดเทอมแม่พาผมไปซื้อรองเท้ามีตังค์ไปไม่พอเห็นราคาแล้วก็แค่กลับบ้านครับ (น้ำตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งไหล พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เจอออกมาด้วยความหดหู่ใจ
ครูเมย์ : ได้เงินมาโรงเรียนวันละเท่าไหร่ตะวัน
ตะวัน : 30-40 บาทครับครู บางวันก็.....
ครูเมย์ : วันไหนไม่มีตังค์กินขนมมาเอาจากครูนะครูเจิน : เราไปรอแม่ที่รถครูดีกว่า น่าจะปลอดภัยด้วย
18.50 น. พ่อแม่ของตะวันกลับมาจากไปรับจ้างขึ้นตัดสะตอ ขับรถสวนทางกัน ความมีน้ำใจของพ่อ ส่งสะตอให้ครู พร้อมกับยิ้มแล้วบอกว่า #ขอบคุณครับที่มาส่งลูก

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก


 เรื่องราวเหล่านี้สอนให้เรารู้ว่าเราเลือกเกิดไม่ได้แต่สิ่งที่จะทำให้เราก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้นั่นคือ โอกาส
...โอกาสแรกที่ได้รับคือการเลี้ยงดู และส่งให้เรียนหนังสือจากผู้เป็นพ่อและแม่
...โอกาสที่สองคือ ครูผู้เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองที่คอยให้ความรู้ สอนเรียน เขียน อ่าน ด้านการศึกษา
...ส่วนโอกาสที่สาม มาจากความมานะ พยายามของเด็กชายตะวันผู้ซึ่งเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก


ขณะเดียวกัน เฟสบุ๊ก ภิญญดา หิมวรรณวงษ์ ได้ขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ว่าที่ร้อยโทสมชายเรืองจันทร์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ นายธรรมรงค์ มณีโชติ นายกองค์การบริหารตำบลคลองสระ คณะผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาฯหัวหน้าส่วนและพนักงานส่วนตำบล ที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับเด็กชายตะวัน เเก้วดำ และเด็กหญิงเสาวลักษณ์ อินทร์พรหม ในครั้งนี้ คณะครูโรงเรียนบ้านคลองสระ

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก



ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก

และล่าสุดเฟสบุ๊ก ภิญญดา หิมวรรณวงษ์ ได้โพสต์อีกว่า  หลังจากที่ครูโพสต์สตอรี่เด็กชายตะวันซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ใจบุญเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 มีเพื่อน ๆ ครู อาจารย์ และผู้ใจบุญหลาย ๆ ท่าน มาจากหลาย ๆ สถานที่ และหลาย ๆ หน่วยงาน บางท่านขอที่อยู่จัดส่งของมาให้ บางท่านขอเลขบัญชีตะวันเพื่อมอบทุนการศึกษา หลายท่านมาหาถึงที่โรงเรียน มาถึงวันนี้ครูในฐานะตัวแทนของ ด.ช.ตะวัน แก้วดำ ขอกราบขอบพระคุณที่ยื่นโอกาสต่าง ๆ เข้ามาให้ความเชื่อเหลือ ซึ้งในน้ำใจของคนไทยที่ไม่เคยทิ้งกันค่ะ ขอขอบคุณทุกๆท่านจากใจของครูค่ะ

ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก



ด.ช.ตะวัน เด็กดีไม่ถูกทิ้ง พลังโซเชียลเป็นผล ไม่ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาอีก

logoline