svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก

15 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ปฏิบัติการซาวเสียงสโมสรสมาชิก ด้วยหนังสือที่ทำขึ้นเป็นเอกสาร 1 แผ่น เนื้อหาถามความเห็น พร้อมหรือไม่ที่จะส่งทีมเข้าแข่งขัน กับลีกฟุตบอลอาชีพ ฤดูกาล 2563 ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กลายเป็น"ตำบลกระสุนตก" ให้คนในวงการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งกำแพงเพชร เอฟซี ที่ระบุว่าขั้นตอนแบบนี้ถือว่า "ไม่แฟร์" , "โค้ชบลู "จากสระแก้ว เอฟซี ได้ทีร่ายยาวลงสื่อสังคมออนไลน์ ,ในขณะที่อดีต ผจก. ทีมฟุตบอลกรุงเทพคริสเตียน ห่วงใย " ดัชนีความเชื่อมั่น" ต่อ นายกสมาคมฯจะถดถอย

คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก



เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสรกำแพงเพชร เอฟซี



เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสรกำแพงเพชร เอฟซี ทีมฟุตบอลในไทยลีก 3 ภาคเหนือ ให้สัมภาษณ์กับ " เนชั่น ทีวี " ว่า หนังสือสอบถามความเห็น ต่อความพร้อมในการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ที่ออกโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลประเทศไทย ไปถึงสโมสรสมาชิกในกลุ่มลีกอาชีพ ฉบับประจำวันที่ 13 กรกฏาคม แม้ว่าตัวหนังสือจะยังมาไม่ถึงทางสโมสรกำแพงเพชรเอฟซี แต่ก็ทราบในรายละเอียดบ้างแล้ว ในส่วนของกำแพงเพชร เอฟซี ก็จะตอบกลับไปว่า พร้อมที่จะส่งทีมเข้าแข่งขัน ทั้งนี้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ท้าทายก็คือ ในมุมของกำแพงเพชร เอฟซี ก็คือการแบกรับค่าใช้จ่ายกับการตรวจโควิด- 19 ก่อนการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จะไม่ต่ำกว่า7 แสนบาท ที่หมายถึงค่าใช้จ่ายจนจบฤดูกาล และขณะนี้ก็มีแผนที่จะขายรถยนต์ เพื่อนำเงินมาเป็นทุนสำรอง สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจโควิด -19




อย่างไรก็ตามสิ่งมีที่ขอตำหนิไปถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็คือหนังสือที่ทำออกมา ซึ่งเป็น เอกสารเพียง 1 แผ่น ไม่ได้ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลยว่า หากส่งเข้าแข่งขันสโมสรสมาชิก จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ จากโควิด - 19 หรือหากไม่ส่งเข้าแข่งขัน สโมสรสมาชิกจะต้องปฏิบัติอย่างไร " เราพูดกันเสมอถึงคำว่าแฟร์ หรือ ยุติธรรม แต่หนังสือฉบับนี้มันไม่แฟร์ เป็นเอกสารที่ยึดติดระบบราชการ ไม่มีทางเลือกให้สโมสรสมาชิกได้ตัดสินใจ เรื่องนี้มันคือสิ่งที่จะบ่งบอกถึงการที่จะไปข้างหน้าหรืออยู่กับที่ แต่กลายเป็นว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไม่ได้คำนึงถึง ทำหน้าที่เพียงถามความสมัครใจเท่านั้น ผลที่ตามมาจากการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเดินหน้าต่อ หรือ หยุดการแข่งขัน สโมสรสมาชิกแบกรับไว้เอง ผมว่ามันไม่ยุติธรรม ผมสัมผัสบรรยากาศแบบนี้หลายครั้งแล้ว เรียกประชุมสโมสรสมาชิกเพื่อรับฟังความเห็น แต่ในที่ประชุมก็ไม่ได้ฟังเสียงเหล่านั้น เพราะคำตอบที่ตัวเองต้องการมีอยู่แล้ว มันเหมือนเจ้านายกับลูกน้อง ต่อให้ออกความเห็นอย่างไร ผู้ที่ทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชา ก็คือผู้ชี้ขาดในที่สุด" เศกสรร กล่าว




คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก








"โค้ชบลู" สันติ ทรงเต๊ะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมฟุตบอลสระแก้ว เอฟซี ในไทยลีก 3 กลุ่มตะวันออก ให้สัมภาษณ์กับ "เนชั่น ทีวี" ว่า หนังสือฉบับนี้มองในฐานะคนในวงการฟุตบอลแล้ว บรรยากาศไม่ต่างไปจากการทำลายขวัญและกำลังใจ ทั้งยังอาจจะกลายเป็นตัวเร่งให้บางสโมสรตัดสินได้ง่ายขึ้นกับการ พักทีมไม่ส่งเข้าแข่งขัน เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ควรที่จะเลือกใช้วิธีการเรียกประชุมสโมสรสมาชิก ในรูปแบบของการประชุมแบบออนไลน์ หรือ แบบใดก็ตามที่ทุกคนสามารถแสดงความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวพันกับอนาคตตัวเองได้ ไม่ควรที่จะใช้วิธีการในแบบ ทำหนังสือสอบถามความเห็นแล้วให้ตอบกลับมาใน 7 วัน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในขณะนี้



คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก





"โค้ชบลู" สันติ ทรงเต๊ะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมฟุตบอลสระแก้ว เอฟซี




คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก


" ในฐานะคนในวงการฟุตบอล ผมอยากเห็นความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ สโมสรฟุตบอล คือความเกี่ยวข้องกับคนหลายฝ่าย คืออาชีพสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง ทางออกของเรื่องนี้จะลงเอยแบบใด ต้องแสดงออกให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ และเรื่องนี้ ผมก็แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ในเฟซบุ๊คแบบตรงไปตรงมา ไม่สบายใจ ต่อท่าทีของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เฉพาะอย่างยิ่งกับตัวหนังสือที่ทำถึงสโมสรสามชิก ควรจะมีรายละเอียด เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้ตัดสินใจ ทุกคนต้องรับรู้คือ หากไม่ไปต่อ สโมสรต้องจ่ายค่าปรับ 1 ล้านบาท หรือ หากแข่งขันไปแล้วพักทีม กลางฤดูกาล ต้องเสียค่าปรับ 2 ล้านบาท พักทีมแล้ว ไปเริ่มต้นใหม่ กับไทยแลนด์อเมเจอร์ ( ลีกสมัครเล่น ) หรือไม่ เรื่องเหล่านี้สมาคมกีฬาฟุตบอลต้องชัดเจน อย่าเพียงโยนหินถามทาง แล้วให้ทุกคนคิดกันเอง" สันติ กล่าว



คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก


ประสิทธิ์ อิทธิกำจร อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลกรุงเทพคริสเตียน





ประสิทธิ์ อิทธิกำจร อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลกรุงเทพคริสเตียน ในลีกภูมิภาค กล่าวกับ " เนชั่นทีวี"ว่า หนังสือที่ออกโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย น่าจะโยงไปถึงทีมฟุตบอลในไทยลีก 3 ทั้ง 6 โซน หรือ 76 ทีม ที่น่าจะมีส่วนได้เสียโดยตรง เพราะเป็นลีกที่กลับมาเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ หลังปรับโครงสร้างในขณะที่ ไทยลีก 1 และไทยลีก 2 ยังมีผลการแข่งขันรองรับ อีกทั้งมีความเกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์จากการถ่ายทอดสดการแข่งขัน
" ที่ผมเป็นห่วงต่อท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็คือ ตัวหนังสือฉบับนี้ จะมีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นซึ่งมีต่อนายกสมาคมฯ และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยโดยตรง เพราะไม่ต่างไปจากการส่งสัญญานว่าฟุตบอลในบางลีก อาจจะไม่สามารถกลับมาแข่งขันได้ หรือไม่ได้ไปต่อ ด้วยข้อจำกัดรอบด้าน และกลายเป็นการนำเอาโมเดลในแบบต่างประเทศที่พักการแข่งขัน เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ในปีต่อไป มาใช้กับฟุตบอลไทย ทราบดีว่าการเดินไปข้างหน้าหรือแข่งขัน เพื่อให้จบฤดูกาล ไม่ต่างไปการฝ่าฟันอุปสรรค แต่การตัดสินใจใดๆก็ตาม ในเชิงของการกำหนดนโยบาย มันควรจะมีรูปแบบที่ดีกว่านี้ ควรมีมากกว่าเอกสารเพียง 1 แผ่น ให้ทุกคนตัดสินใจ และตอบกลับมา" ประสิทธิ์ กล่าว

คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก

คนในวงการยำสมาคมฯ เซ่นซาวเสียงส่งทีมแข่งลีก



Sunti Songte#พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกของสมาคมหวังว่าสมาคมฟุตบอลจะไม่แก้ไขปัญหาด้วยการยุตติปัญหาโดยการหักด้ามพร้านะครับพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกหนักจริงๆในช่วงนี้ ของสมาคมที่โดนหมู่มวลสโมสรสมาชิกบางทีม แฟนบอลหลายส่วน ได้ออกมาวิจารย์ในการทำงาน ทั้งในเรื่องการจัดโปรแกรมการแข่งขัน เรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดจากทรูวิชั่นและค่าตรวจโควิดล่าสุดเมื่อวานนี้โดนหมู่มวลสโมสรสมาชิกออกมาวิจารย์อย่างหนักอีกครั้ง หลังจากได้ออกหนังสือเวียนไปให้สโมสรสมาชิก#ตัดสินใจว่าจะส่งทีมเข้าร่วมการแข่งในปีนี้หรือไม่ ภายใน7วัน ซึ่งปรกติสโมสรก็ตอบกลับไปตั้งแต่ต้นปีอยู่แล้ว#ผมมองว่าควรที่จะเชิญสโมสรสมาชิกมาประชุมหารือ มากกว่าการที่จะส่งหนังสือไปสอบถาม
ทั้งนี้การที่จะให้สโมสรทำการตัดสินใจ ว่าจะส่งหรือไม่ส่ง เนื้อหาในหนังสือควรที่จะมีคำชี้แจงในรายระเอียดให้สโมสรได้อ่านแล้วตัดสินใจได้ เช่น*ข้อดีในการส่งแข่ง-สมาคมจะจัดแข่งขันให้เสร็จภายปีนี้นะ-ค่าลิขสิทธิ์ได้มั้ยและได้เท่าไหร่-เงินรางวัลยังมีและได้เท่าเดิมมั้ย-ยังจัดแข่งขันเหมือนเดิมได้ทุกรายการนะ-ค่าตรวจโควิดสมาคมช่วยออกเป็นเงินกี่บาท-ยังต้องตรวจโควิดเหมือนเดิมทุกนัดหรือไม่-ปีหน้ากลับมาส่งแข่งขันในไทยลีก3เหมือนเดิม*ข้อเสียถ้าหยุดส่งแข่งขัน-โดนปรับเงิน1ล้านบาทตามระเบียบหรือไม่ต้องปรับ-ปีหน้าจะต้องไปเริ่มต้นใหม่ใน อะเมเจอร์ลีกนะ-ปีหน้ายังต้องทำคลับไลเซ่นส์ซิ่งส่งให้ได้หรือไม่
ผมมองว่ารายละเอียดต่างๆเหล่านี้ คือสิ่งที่สมาคมต้องชี้แจงลงไป ให้กับสโมสรได้ทราบ ก่อนที่จะให้เขาได้ตัดสินภายใน7วัน#ซึ่งผมก็หวังว่า สมาคมจะไม่แก้ไขปัญหาด้วยการเอาคำตอบไม่ส่งแข่งบางส่วนจากสโมสรในไทยลีก3#มาหักด้ามพร้า เพื่อถือโอกาศยุตติไม่มีการจัดการแข่งในฤดูการนี้ไปเลยนะครับ
เพราะถ้าทำแบบนั้น ผมเชื่อว่าจะโดนพายุอีกระลอก

logoline