svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ป.ป.ส.พร้อมคู่กรณี พบตำรวจไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย

14 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พร้อมคู่กรณี เข้าพบตำรวจ ดอนเมือง เจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและชดใช้ค่ารักษาพยาบาล โดยทั้งคู่ยอมยกโทษและให้อภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ป.ป.ส วิ่งหนีสื่อขึ้นรถกลับทันที ตำรวจเผยแจ้ง 3 ข้อหา ส่งรถยนต์ตรวจสอบ ส่วนเรื่องทำไมไม่ตรวจวัดแอลกฮอล์ตำรวจยังไม่ชี้แจงเหตุผล

จากกรณี เจ้าหน้าที่ ปปส.ขับรถชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน และมีการทำร้ายร่างกายคนขับขี่ รถจักรยานยนต์ และมีพฤติกรรมในการใช้อาวุธข่มขู่ พร้อมกับมีการอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขณะเดียวกันเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัย จะเข้าทำการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ชายคนดังกล่าวก็มีการห้ามไม่ให้ทำการปฐมพยาบาลช่วยเหลือ

ล่าสุดวันที่ 14 กรกฎาคม นายเก่ง ไกรสรณ์ และนายต๋อง แซ่หุ้น ผู้เสียหาย พร้อมด้วยนายภาสกร ลอยอินทรัตน์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ผู้ก่อเหตุ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องการชดใช้ค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คู่กรณีมาพบกันหลังจากเกิดเหตุ

เบื้องต้น นายภาสกร ได้จ่ายค่าทำขวัญ ให้กับ นายเก่ง จำนวน 15,000 บาท ให้ นายต๋อง 10,000 บาท ส่วนค่ารักษาพยาบาล จะจ่ายให้ตามจริง จนกว่าจะหายเป็นปกติซึ่ง ซึ่งผู้เสียหายทั้งคู่ได้ยอมรับเงื่อนไข และผู้ต้องหาได้กล่าวขอโทษ กับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงยอมยกโทษและให้อภัยผู้ต้องหา นอกจากนี้ในต๋องยังบอกว่า ขณะเกิดเหตุ นายภาสกร มีอาการ คล้ายกับคนเมาสุรา แต่ตำรวจตรวจได้ตรวจแอลกอฮอล์หรือไม่ ไม่รู้ คงเป็นหน้าที่ของตำรวจ และหลังจากการเจรจาเสร็จสิ้น นายภาสกร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้วิ่งหนีสื่อมวลชน ขึ้นรถเก๋งสีขาวออกไปทันที


ป.ป.ส.พร้อมคู่กรณี พบตำรวจไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย

ด้าน หัวหน้างานของนายภาวกร ระบุว่า วันนี้ได้พาตัวนายภาสกรมาพบพนักงานสอบสวนและขอโทษผู้เสียหาย และชดใช้เยียวยาค่ารักษาพยาบาล ส่วนรายละเอียดอื่นๆขอให้เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนในการที่จะให้ข้อมูล และปฏิเสธ ที่จะให้ข้อมูลเรื่องอาวุธปืน ส่วนเรื่อง รถยนต์วอลโว่ที่นายภาสกรนำมาใช้ ต้องตรวจสอบกับ ป.ป.ส.


ป.ป.ส.พร้อมคู่กรณี พบตำรวจไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย


ด้าน พันตำรวจเอก รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับ สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า คดีนี้ จะต้องแยกออกเป็น 2 เรื่อง คือ คดีอุบัติเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน กับคดี ทำร้ายร่างกาย ฯลฯ ซึ่งตำรวจได้มีการแจ้งข้อหากับนายภาสกรแล้วรวม 3 ข้อหาแล้ว คือ มีและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนประเด็นที่ว่ารถคันก่อเหตุอาจเป็นรถของกลางในค.ดีนั้นเบื้องต้นได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ให้ส่งรายละเอียดรถยนต์ของกลางทั้งหมดในคดีต่างๆที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ส. มาให้พนักงานสอบสวน สน. ดอนเมือง ทำการตรวจสอบ ว่า เป็นรถของกลางจริงหรือไม่ และผู้ต้องหานำไปใช้ได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางตำรวจก็ยังไม่มีการชี้แจงเหตุผลกรณีที่ไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์กับ คู่กรณี ทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากเกิดเหตุ ทั้งที่ปกติแล้ว คดีอุบัติเหตุบนท้องถนน ตามขั้นตอนแล้วจะต้องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทั้ง 2 ฝ่าย และมึผลแพทย์ยืนยัน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

logoline