เริ่มต้นตั้งแต่ เช้าวันที่ 11 พ.ค. ครอบครัวได้ประกาศตามหาหนูน้อยอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี5 เดือน เหตุเกิดที่ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ. ดงหลวง จ.มุกดาหาร
ก่อนที่น้องจะหายตัวไปญาติได้ระบุว่า พ่อแม่เด็ก ไปทำงานไปสวนให้น้องอยู่กับพี่สาวพี่สาวนอนเฝ้าน้องเล่นที่เตียงหน้าบ้าน ซึ่งบ้านน้องติดกันกับบ้านป้าน้องเล่นใต้ต้นมะม่วงบ้านป้า แล้วพี่สาวเผลอหลับตื่นมาอีกทีหาน้องไม่เจอโทรหาพ่อกับแม่ และญาติพี่น้องให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านช่วยตามหา เริ่มออกตามหาตั้งแต่ 9 โมงเช้าของวันที่ 11พ.ค.
ตั้งแต่วันที่11 พ.ค. ชาวบ้าน เริ่มออกตามหาหนูน้อยปูพรมหาในป่ารอบๆหมู่บ้าน ซึ่งอุปสรรคคืออากาศร้อน และพื้นที่สูงชันโดยจัดชุดกำลังเดินหาไกลถึง 10กม.ด้วยความหวังว่า จะเจอกับน้องอย่างปลอดภัย และเพียงแค่หลงทางไปเท่านั้น
ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. ครอบครัว เชิญร่างทรงมาทำพิธีเปิดทาง ขอขมาเปิดทางเปิดป่า หวังว่าจะพบลูกในสภาพที่ปลอดภัย
ซึ่งบ่ายวันที่14พ.ค.ก็ได้ความคืบหน้าเป็นข้อๆ ดังนี้ว่า
1.ยายตุน อายุ70ปี ชาวบ้านจังหวัดสกลนครเดินเท้าขึ้นไปเก็บเห็ดหาของป่าเทือกเขาภูพานน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายลแจ้งเบาะแสว่า พบรองเท้าเด็กสีเขียว บนกลางป่า โดยที่ไม่ทราบข่าวเด็กหายหลังจากกลับมาเล่าให้ครอบครัวฟังจึงพากันไปบอกเจ้าหน้าที่
2.เจ้าหน้าที่ นำกำลังขึ้นตรวจสอบจุดที่พบรองเท้าซึ่งห่างจากบ้านประมาณ5กิโลเมตร พบร่างน้องชมพู่ อยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้าสภาพคล้ายกับโดนบีบคอก่อนเสียชีวิต
3.เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานมีคนร้ายนำพาตัวไปที่จุดเกิดเหตุและมีการทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า8ชั่วโมง ต้องรอผลการชันสูตร
4.ห่างออกไป2-3เมตร จากบริเวณที่พบน้องชมพู่ พบเสื้อแขนยาวสีขาวกางเกงขายาวสีชมพู และกางเกงชั้นใน
5.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปเทียบเคียงดีเอ็นเอ ประกอบการสืบสวน ติดตามหาคนร้ายที่ก่อเหตุก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายศพรอการส่งตรวจผ่าพิสูจน์โดยละเอียดที่สถาบันนิติเวช
ต่อมา18พฤษภาคม2563รองโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เผยผลชันสูตร น้องชมพู่ (ครั้งที่2)พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย อวัยวะเพศมีบาดแผลฉีกขาด แพทย์เก็บตัวอย่างของเหลวตรวจหาอสุจิ
1มิถุนายน2563รอง ผบ.ตร. เผยว่า คัดแยกกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว และรอผลจากนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเพื่อพิสูจน์ขอสันนิฐาน
2มิถุนายน2563รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ผลการตรวจอสุจิในช่องคลอดยังตรวจไม่ได้ เนื่องจากศพมีสภาพเน่าเปื่อย
3มิถุนายน2563รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ยังไม่ตัดกลุ่มผู้ต้องสงสัยทิ้ง ทั้งนายพราน-บุคคลใกล้ชิดในครอบครัว ตำรวจเฝ้าประกบตัวผู้ต้องสงสัย
ในขณะที่โลกสังคมออนไลน์ และผู้ที่ติดตามข่าวน้องชมพู่ พุ่งเป้าไปที่ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่
โดยทางด้านลุงพล ได้กล่าวว่า หลายคนอาจจะพุ่งเป้ามาที่ตนว่าเป็นคนร้ายในการก่อเหตุกับหลานตัวเอง ตนยอมรับว่ามีเครียดบ้าง แต่ไม่ได้กังวล เพราะวันที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน ยืนยันว่าตนไม่ใช่คนร้าย ตนรักน้องชมพู่ เอ็นดูน้องมาก หากสมมติว่าพ่อแม่เขาไม่เลี้ยง ตนก็สามารถรับมาเป็นลูกได้เลย ซึ่งเมียตนก็อยากได้ลูกสาวอยู่แล้ว และขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยไม่ได้จับแพะ
4มิถุนายน2563ลุงพล เปิดเผยว่า ตำรวจนำตัวตนไปสอบปากคำ12ชั่วโมง และยังมีการนำตัวไปชี้จุด เล่าลำดับเหตุการณ์ และถ่ายภาพประกอบเหมือนการทำแผน ตนก็ให้การตามปกติ
6มิถุนายน2563ตำรวจพบรอยไหม้ใต้กอหญ้า ทางไปสวนยางพาราข้างบ้านน้องชมพู่ มีร่องรอยคล้ายเผาวัตถุบางอย่าง ตำรวจเก็บหลักฐานไปตรวจสอบ เพราะสภาพศพบริเวณเท้าข้างขวาพบฝุ่นผงสีขาว และรอยเขม่าสีดำ
7มิถุนายน2563ชาวบ้านที่ออกตามหาน้องชมพู่ จำนวนกว่า100คน จาก3หมู่บ้าน จำลองเหตุการณ์เสมือนจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องการหาคำตอบก็คือ มีช่วงเวลาที่ขาดหายไประหว่างการติดตามตัวน้องชมพู่เกือบ40นาที โดยมีพยานและบุคคลต้องสงสัยให้การไม่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ลุงพลไม่ได้จำลองเหตุการณ์ด้วย โดยบอกว่าตำรวจไม่ได้ให้จำลอง เพราะทำไปแล้ว
เรื่องนี้คงสืบกันอย่างต่อเนื่องค่ะ รวมถึงโลกสังคมออนไลน์เริ่มขุดประวัติที่ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหาข้อเท็จจริง เรียกว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่อีกคดีที่อยากจะให้ปิดไวๆ ยังไงก็เอาใจช่วยคุณตำรวจให้จับคนผิดได้ ก่อนที่เวลาจะนานไปมากกว่านี้