มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์ ร่วมกันยื่นคำฟ้องต่อศาลแขวงแมสซาชูเสตต์ในเมืองบอสตัน เมื่อวันพุธเพื่อยับยั้งคำประกาศของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเมื่อต้นสัปดาห์ ที่อาจระงับวีซ่านักเรียนและนักศึกษาต่างชาติ และไม่อนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศ หากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนออนไลน์ทั้งหมดสำหรับภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
แลร์รี บาโคว์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตำหนิว่า คำสั่งออกมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เป็นความโหดร้ายและความสะเพร่า และมีจุดประสงค์เพื่อกดดันให้สถาบันการศึกษาต้องเปิดการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยไม่คำถึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เรียน ผู้สอนและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ทำให้นักศึกษาต่างชาติหลายร้อยคนไม่มีทางเลือกทางการศึกษาในสหรัฐ คำสั่งที่ออกมาเป็นนโยบายที่แย่ และเชื่อว่าผิดกฎหมายด้วย
นอกจากนี้คำฟ้องชี้ให้เห็นว่า เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็จะเริ่มเปิดภาคเรียนแล้ว ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่สามารถย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นที่ยังเปิดสอนในห้องเรียนได้ทัน และการกลับไปเรียนออนไลน์ที่บ้าน อาจเป็นไปไม่ได้เลย ไม่สะดวก หรือเสียค่าใช้จ่ายสูงมากสำหรับนักศึกษาจำนวนมาก
แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ แย้งว่า แผนการสอนออนไลน์ของฮาร์วาร์ดที่ประกาศเมื่อวันจันทร์เป็นเรื่องน่าขัน และย้ำว่า สถาบันการศึกษาในสหรัฐจะต้องกลับเข้าสู่ภาวะปกติในภาคเรียนนี้ พร้อมทั้งทวีตขู่เมื่อวานว่า อาจตัดงบประมาณสนับสนุนหากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยแห่งใดไม่เปิดการสอนตามปกติ