svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

'สหรัฐฯ' ผู้ติดโควิด-19 ยอดพุ่งวันเดียว 6 หมื่นราย

09 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ ในขณะที่อีกหลายประเทศก็มีการรับมืออย่างเข้มแข็ง ล่าสุดมีการรายงานว่า ยอดติดเชื้อโควิด ทะลุ 12 ล้านคน สหรัฐฯ วันเดียว 6 หมื่น ผู้นำบราซิล ยังบอกประชาชน โควิด ไม่อันตราย ทั้งที่ตัวเองติดเชื้อแล้ว

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ณ เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย พบยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก 12,154,444 ราย เสียชีวิตแล้ว 551,163 ราย

เรียงตามลำดับดังนี้..


1. สหรัฐฯ ติดเชื้อ 3,157,879 ราย เสียชีวิต 134,838 ราย

2. บราซิล ติดเชื้อ 1,716,196 ราย เสียชีวิต 68,055 ราย

3. อินเดีย ติดเชื้อ 769,052 ราย เสียชีวิต 21,144 ราย

4. รัสเซีย ติดเชื้อ 700,792 ราย เสียชีวิต 10,667 ราย

5. เปรู ติดเชื้อ 312,911 ราย เสียชีวิต 11,133 ราย

6. ชิลี ติดเชื้อ 303,083ราย เสียชีวิต 6,573 ราย

7. สเปน ติดเชื้อ 299,593 ราย เสียชีวิต 28,396 ราย

8. อังกฤษ ติดเชื้อ 286,979 ราย เสียชีวิต 44,517 ราย

9. เม็กซิโก ติดเชื้อ 268,008 ราย เสียชีวิต 32,014 ราย

10. อิหร่าน ติดเชื้อ 248,379 ราย เสียชีวิต 12,084 ราย

-----------------------------------------

ไทย ติดเชื้อ 3,197 ราย เสียชีวิต 58 ราย

-----------------------------------------

'สหรัฐฯ' ผู้ติดโควิด-19 ยอดพุ่งวันเดียว 6 หมื่นราย

สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ2ล้านคนส่วนสหรัฐฯเองก็ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ6หมื่นคนต่อวันขณะที่ทางด้านประเทศบราซิลนอกจากผู้นำประเทศติดเชื้อโควิดแล้วล่าสุดพบว่าสุสานวิลลาฟอร์โมซาชานนครเซาเปาโลพบว่าสุสานต้องเร่งจัดพิธีศพภายในเวลา10-15นาทีเพราะสุสานจะต้องรีบฝังศพที่มีมากถึงวันละ80รายเป็นเรื่องน่าตกใจและน่าเศร้ามากเพราะเป็นช่วงเวลาร่ำลาครั้งสุดท้ายให้กับผู้เป็นที่รักที่จากไปแต่พวกเขากลับมีเวลาไม่มากนักบราซิลมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ

ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีฌาอีย์โบโซนารูวัย65ปีผู้นำบราซิลที่เขาเองเพิ่งติดเชื้อโควิด-19ขอให้ประชาชนดูแลตนเองหากเป็นคนหนุ่มสาวขอให้วางไว้ใจได้ว่าอันตรายเท่ากับศูนย์ส่วนคนสูงวัยอาจเสี่ยงสูงขึ้นอย่างไรก็ดีเขารู้สึกสบายดีเพราะรับประทานไฮดรอกซีคลอโรวินยาต้านมาลาเรียที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐฯสนับสนุนว่ารักษาโควิด-19ได้


ด้านนพ.ลูอิซเอนรีเกมันเดตตาที่ถูกผู้นำบราซิลปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขเพราะรณรงค์ให้คนสวมหน้ากากอนามัยและอยู่บ้านแสดงความเป็นห่วงว่าประชาชนจะเชื่อประธานาธิบดีว่ายาช่วยชีวิตได้ถึงร้อยละ90ทั้งที่ไม่ใช่ยารักษาเป็นเพียงการดำเนินอาการของโรคนั้นเขาและรัฐมนตรีหลายคนเคยพยายามเตือนประธานาธิบดีให้ความสำคัญกับการระบาดอย่างจริงจังและมีแผนระดับประเทศในการแก้ปัญหาแต่ประธานาธิบดีไม่รับฟังและห่วงเศรษฐกิจมากกว่าชีวิตประชาชน


logoline