svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

วิกฤติพนันออนไลน์ - "ดีอี-ตำรวจ"ทำอะไรกันอยู่?

08 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตามกันต่อกับการประเด็นเกาะติดของ "เนชั่น ทีวี" ในการเปิดโปงปัญหา "พนันออนไลน์" เมื่อวานเราได้เล่าให้ฟังไปแล้วถึงสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีนักเสี่ยงโชคหน้าใหม่นับแสน มีนักพนันนับล้าน แถมเด็กสุดที่ถูกล่อลวงให้เล่น มีอายุแค่ 7 ขวบ วันนี้เรามาตามกันต่อในมุมที่กว้างขึ้น เพราะปัญหานี้ขนาด "เอฟบีไอ" ยังมองว่าอันตราย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทย โดยเฉพาะตำรวจ กับกระทรวงดีอี ดูจะให้ความสนใจปัญหานี้น้อยมาก ติดตามได้จากรายงานพิเศษของ คุณอนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์

 "เงินหมุนเวียนของการพนันออนไลน์ในปีที่แล้วอยู่ที่ 5 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ปีนี้อาจจะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 6 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมาจะอยู่ที่ประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ" นี่คือข้อมูลอันน่าสะพรึงกลัวจากการแพร่ระบาดของเครือข่าย "พนันออนไลน์" ที่ขยายตัวไปทั่วโลก โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 


พันตำรวจโท กฤษณพงศ์ พูตระกูล นักวิชาการอาชญวิทยาและกระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต บอกกับ "เนชั่น ทีวี" ว่า สถานการณ์ความน่ากลัวของการเล่นพนันออนไลน์ที่ขยายวงกว้างไปหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ ตำรวจสากล หรือเอฟบีไอ มองว่า คนร้ายในยุคโซเชียล ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการกระทำความผิดมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ การพนันออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงไวรัสโควิด ทำให้คนร้ายอาศัยช่องว่างนี้ทำการโฆษณาชวนเชื่อในรูปแบบต่างๆ เพราะหลายคนต้องกลายเป็นคนตกงาน บางคนถูกเลิกจ้าง จนสุดท้ายต้องทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากท้อง

"การพนันออนไลน์ ถือว่าเข้าข่ายอาชญวิทยา ซึ่งตรงกับทฤษฎีทางเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผล เนื่องจากการเล่นพนันออนไลน์ก็อาศัยหลักความเชื่อว่า หากลงทุนเล่นพนันไปแล้วก็อาจจะได้เงินคืนมาได้จากการลงทุน / แต่ในความจริงแล้ว การเข้าไปเล่นพนันออนไลน์มีสิทธิ์ที่จะได้เงินจากการถูกพนันไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น"

มองย้อนกลับมาบ้านเรา หน่วยงานที่รับผิดชอบป้องกันและปราบปรามการพนันออนไลน์ อาจจะยังไม่ได้มองว่า สถานการณ์ความน่ากลัวของเครือข่ายพนันออนไลน์กำลังเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเร่งป้องกัน เนื่องจากการพนันเป็นต้นเหตุของการก่ออาชญากรรมพันตำรวจโท กฤษณพงศ์ บอกว่า บ้านเราก็ควรจะต้องมีการตั้งหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลัก ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนกระทรวงดีอี ควรจะมีบทบาทในการประสานข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ซึ่งในต่างประเทศจะมีการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อสกัดกั้นช่องทางของคนร้าย ที่สำคัญคือ คนที่มีหน้าที่กำหนดนโยบาย ก็ควรที่จะมีความชัดเจน และเข้าใจในการแก้ปัญหาบ่อนออนไลน์ ซึ่งหากผู้นำมีความเข้าใจ จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานได้ถูกต้อง หากดูจากตัวเลขการจับกุมที่มีเพียงแค่หลักสิบของตำรวจ สวนทางกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีเป็นพันเป็นหมื่นเว็บไซต์ จึงต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงไม่มีมาตรการอะไรที่ติดตามจับกุมได้เลยหรือ 

"ผมเคยโทรศัพท์ไปที่กระทรวงดีอี โดยจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ แต่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงได้บอกว่า ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ แต่ทางกระทรวงจะไม่แจ้งผลการติดตามกลับไปแก่ผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสจะต้องไปดูว่าเว็บไซต์ปิดหรือยัง โดยแตกต่างจากต่างประเทศที่มีการแจ้งความคืบหน้าในการติดตามจับกุมกลับมายังผู้แจ้งเบาะแสทันที"

 แน่นอนว่า เม็ดเงินหมุนเวียนที่มีจำนวนมหาศาล กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ทั้งคนร้าย / นักธุรกิจสีดำ หรือแม้แต่นักพนัน ยอมที่จะเสี่ยงโชคกับขบวนการพนันออนไลน์ แต่อีกมุมหนึ่งก็เรื่องท้าทายของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบว่า จะก้าวตามเครือข่ายพนันออนไลน์เหล่านี้ได้หรือไม่

logoline