svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เตือน"รมต.-ส.ส.รัฐ"อย่ามองสภาฯเป็นตรายาง

08 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ฝ่ายค้าน"ออกโรงแจงยันเหตุขอนับองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อนล่ม เพื่อเตือนสติ รัฐมนตรี-ส.ส.ซีกรัฐบาล ควรให้ให้ความสำคัญกับสภาฯ ไม่ใช่มองเป็นเพียงแค่ตรายาง ย้ำเป็นอีกเจอยกระดับแน่นอน

(8 กรกฎาคม 2563) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่มส.ส.สุรินทร์ และนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงภายหลังเกิดเหตุการณ์องค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มครั้งแรก ในสมัยประชุมครั้งที่ 2 สำหรับการพิจารณาแผนรายงานการปฏิรูปประเทศ
โดยนายสุทิน กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศ คือ คำมั่นสัญญาของรัฐบาล และเป็นข้ออ้างก่อนการยึดอำนาจ เช่น ต้องมี ส.ว. ช่วงเปลี่ยนผ่าน และเป็นข้ออ้างหลายๆ อย่าง จนสังคมให้โอกาส ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือ ซึ่งในการรายงานแผนการปฏิรูปทุก 3 เดือนนั้น ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ทุกภาคส่วนเห็นว่าการปฏิรูปไม่เกิด
"แม้แต่พันธมิตรที่สนับสนุนรัฐบาลก็ผิดหวัง และแม้กระทั่ง ส.ว. ยังออกมาพูดให้รัฐบาลปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งเราต้องการสะท้อนเสียงของสังคมผ่านไปยังรัฐบาล แต่รัฐบาลทำเสมือนใช้สภาฯเป็นตรายางให้ มาครั้งนี้ รัฐบาลและ ส.ส.ฟากรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ไม่เข้าร่วมประชุม ทำให้เราเสนอนับองค์ประชุมจนสภาฯล่ม" นายสุทิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้น ฝ่ายค้านหวังว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐบาลตระหนักคิดได้ว่า จะเอาอย่างไรกับการปฏิรูปต่อ และเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจ ซึ่งการนับองค์ประชุม และการ์วอล์กเอาต์ เป็นการกระตุ้นเตือน แต่ถ้ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ อีกก็จะยกระดับให้มากขึ้น

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเห็นร่วมจากการประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าเสียงสะท้อนจากประชาชนที่เฝ้าติดตามการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล พบว่าผลการปฏิบัติจริงๆ ไม่เกิดขึ้นเลย อยู่ในขั้นตอนการจัดทำแผนปฎิรูป นำแผนปฏิรูปไปปรับปรุง ซึ่งไม่ขยับเขยื้อน ในรัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อปี 2560 กฎหมายแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ ออกเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2560 หลังจากนั้นให้ดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมาย
"แต่เท่าที่ติดตามตรวจสอบ 2-3 ครั้ง ที่เรารับทราบรายงาน ก็มีข้อเสนอแนะข้อท้วงติงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะความรับผิดชอบของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ซึ่งเดิมเขาไม่สนใจ ส่งฝ่ายปฏิบัติ คือ สำนักงานสภาพัฒน์ฯ ในฐานะเป็นฝ่ายเลขาฯ นำรายงานมาเสนอต่อสภาฯ ทั้งที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเขียนว่าคณะรัฐมนตรีนำเสนอต่อรัฐสภา ซึ่งเสนอแยกระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและรายงานวุฒิสภา ซึ่งเขาได้เขียนกฎหมายแผนและขั้นตอนรองรับ ว่าผลสัมฤทธิ์ ตัวชี้วัดเป้าหมายจะรายงานในรอบปีซึ่งไม่สอดคล้องบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้ติดตามทุก 3 เดือนว่าก้าวหน้าอย่างไร" นพ.ชลน่าน กล่าว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (8ก.ค.) ฝ่ายค้านจึงใช้กลไกของสภาฯ ในการบอกกล่าวกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านประธานสภาฯ ซึ่งการนับองค์ประชุมถือเป็นมาตรการเบาที่สุด ถ้าหากองค์ประชุมครบ ถือว่าฝ่ายค้านพร้อมตรวจสอบรายงานนี้ได้ตลอด ซึ่งขออย่าใช้สภาฯเป็นตรายาง แต่หากไม่มีความพร้อม แม้แต่ ส.ส. ซีกของรัฐบาลก็ยังไม่ให้ความสำคัญ จึงออกมาในรูปแบบนี้ อย่างไรก็ตาม หากองค์ประชุมครบในวันนี้ มาตรการต่อไปจะวอล์กเอาต์เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรม แต่เพียงมาตรการแรกก็ประสบความสำเร็จแล้ว


ขณะที่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้ตั้งใจขอนับองค์ประชุม แต่รัฐบาลละเลย ในขณะที่ฝ่ายค้านเฝ้าสภาฯตลอด เพราะที่ผ่านมา เคยชินกับการเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ การปฏิรูปเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐมนตรี และ ส.ส.ซีกรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ มูลเหตุการรัฐประหาร ก็เพราะเรื่องการปฏิรูป แต่ท้ายที่สุดกลับทำเป็นเพียงเอกสารรูทีน เข้ามาให้สภาฯพิจารณาเท่านั้น ซึ่งเหมือนไม่ให้เกียรติสภาฯ และฝ่ายค้าน ในขณะที่ฝ่ายค้านตั้งใจทำงานให้ประเทศ และเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้รัฐบาลเข้าใจ พร้อมทั้งตระหนักว่าสภาฯ คือ องค์กรที่สำคัญ

logoline