แจ้งจับ "จีจี้ ปีโป้" ตุ๋นขายทองคำ ออนไลน์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.ค.2563 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ผู้เสียหายจำนวน 10 กว่าคน จากกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "จีจี้ ปีโป้ โกง!!!" ซึ่งเป็นกลุ่มปิดมีสมาชิกกว่า 4 พันคน เดินทางมาพร้อม น.ส.หัทยา อั้นเต้ง ทนายความ ร.ต.อ.หญิง สิตานันท์ โฉมวันดี รอง สว. (สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายธีรชัย คงทอง หรือ "จีจี้ ปีโป้" กรณีไลฟ์สดหลอกขายทองรูปพรรณผ่านทางเพจเฟซบุ๊กและมีผู้หลงเชื่อโอนเงินเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลักสิบล้านบาท  ในข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ และ ฉ้อโกงประชาชน
น.ส.หัทยา กล่าวว่า มีกลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกขายทองผ่านเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ได้ทองไม่ตรงตามที่ซื้อขาย เช่น สั่งซื้อทอง 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับได้ 96.5 เปอร์เซ็นต์ 2.โอนเงินแล้วแต่ไม่ได้รับทอง และ 3.สั่งซื้อทองในราคาสูงแต่ขายต่อได้ราคาต่ำกว่าปกติ หากจะขอคืนเงินทางร้านจะถูกหัก 15 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าจะขายสินค้าคืนร้านถูกหัก 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่า "จีจี้ ปีโป้" เคยถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 59 ศาลพิพากษาเอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ และ คดีฉ้อโกงประชาชน จำคุก 3 ปีแต่รอลงอาญา กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำ

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนติดตามไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กมาสักระยะเพราะเห็นมีคนดูเป็นจำนวนมาก โปรไฟล์มีความน่าเชื่อถือ คิดว่ามีการซื้อขายได้ทองตามจริง ส่วนทางร้านอ้างว่าที่ขายในราคาถูกกว่าปกติเพราะต้องการให้คนซื้อนำทองไปขายต่อเพื่อทำกำไร และโปรโมทร้านทองของตัวเอง จึงตัดสินใจซื้อทอง 1 บาท ราคาเพียง 1.6 หมื่นบาท ซึ่งราคาขายปกติประมาณ 2.6 หมื่นบาท พร้อมแจ้งสลิปการโอนเงิน แต่มาทราบภายหลังว่าเป็นทองไม่ตรงตามลักษณะที่ประกาศขาย และขอจะยกเลิกแต่ทางร้านบอกว่ามีการหักเงิน 15 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าจะขายสินค้าคืนร้านถูกหัก 30 เปอร์เซ็นต์ สุดท้ายถูกร้านหักเงิน 15 เปอร์เซ็นต์โดยที่ตนยังไม่ยินยอม ทั้งนี้ เมื่อทวงถามผู้เสียหายกลับโดนบล็อกเฟซบุ๊กไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่ามีผู้เสียหายหลักหมื่นราย 

ส่วน นายอคิน จินา ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายตั้งกลุ่มเพจเฟซบุ๊กขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลพบว่ามีลิ้งค์บัญชีปลอมแฝงตัวเข้ามาเมื่อกดเข้าไปดูปรากฎว่าเป็นแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ "ร.ต.สาวิตรี ม่วงสุ" ที่ใช้รูปภาพ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. แอบอ้างพร้อมข่มขู่ต่อรองไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี แต่ผู้เสียหายรู้ทันจึงประกาศแจ้งเตือนเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่ม จึงอยากให้ ปอท. ตรวจสอบว่าทำเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เผยว่า คดีของตนเองที่แจ้งความเมื่อวันที่ 6 ก.ค.63 มีความเกี่ยวข้องกับคดีของ "จีจี้ ปีโป้" โดยคนร้ายได้ปลอมตัวเข้าไปในระหว่างที่ไลฟ์สดประกาศขายทอง โดยแสดงตัวว่าสามารถขายของได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ "จีจี้ ปีโป้" จากนั้นจึงให้แอดไลน์เพื่อเข้าไปพูดคุยซื้อขายส่วนตัว โดยใช้ภาพของตนเป็นรูปโปรไฟล์ เบื้องต้นจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าเส้นทางการเงินและข้อมูลทางเทคนิคสามารถเชื่อมโยงไปยังตัวคนร้ายที่แอบอ้างได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายรายดังกล่าวจะเป็นบุคคลเดียวกับ "จีจี้ ปีโป้" หรือไม่ ต้องรอข้อมูลทางเทคนิคอีกส่วนหนึ่งมาประกอบจึงจะสามารถยืนยันได้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับนายธีรชัย หรือจีจี้ ปีโป้ เคยโดนผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงแทบทุกปี ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2560  ล่าสุดโดนเพจแหม่มโพธิ์ดำ เปิดประเด็นการไลฟ์สดซื้อขายทองคำที่ไม่ได้ นน.ตามที่เสนอขาย จนมีผู้เสียหายรวมตัวกันตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ"จีจี้ ปีโป้ โกง!!!"เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดในครั้งนี้
นอกจากนี้ในปี พ.ศ.2561 สำนักงานอัยการสูงสุด เคยเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธีรชัย คดีดำที่ อ.1253/2561 และ คดีแดงที่ 2095/2561 ศาลอาญามีคำพิพากษา ในความผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉ้อโกง เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2561 โดยโจทก์ฟ้องและผู้ต้องหารับสารภาพ
เหตุเกิดระหว่างวันที่ 29-30 พ.ค.2560 จำเลยได้หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ต่อประชาชนทั่วไปและ น.ส.เบญจพร เลิศวุฒิวงศ์ ปู้เสียหาย โดยนำข้อความและข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เว็บไซด์เฟซบุ๊ก ผ่านบัญชีผู้ใช้ ในชื่อ จีจี้ ปีโป้ ซึ่งเป็นของจำเลย อบะประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ ว่า จำเลยประกาศขายสินค้าประเภททองรูปพรรณพร้อมพระเลี่ยมทอง แหวนเพชร เครื่องประดับที่ทำจากทองคำ โดยทำในนามบริษัทศิวาลัย ไดมอนด์ โฆษณาว่าสินค้าที่ขายราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป 
หากประชาชนคนใดสนใจให้โอนเงินไปยังเลขบัญชีธนาคารของจำเลย ศาลอาญาพิพากษาลงโทษฐานฉ้อโกงประชาชน 2 ปี ตาม ป.อาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี จำเลยรับสารภาพมีประโยชน์ต่อคดี ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี โทษจำให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี