WHO กลับลำยอมรับโควิด-19 ติดต่อผ่านอากาศได้

วันนี้ (8 ก.ค.63) องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ยอมรับแล้วว่า เริ่มปรากฏหลักฐานใหม่ว่า เชื้อไวรัสโควิด19 สามารถแพร่ระบาด ผ่านละอองฝอยขนาดเล็ก ที่แขวนลอยอยู่ในอากาศได้

โดยเบเนเด๊ตต้า อัลเลแกรนซี่ หัวหน้าฝ่ายควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า เริ่มปรากฏหลักฐานใหม่ว่า โคโรน่าไวรัส หรือเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านทางอากาศได้ ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด สถานที่ปิด หรือมีการระบายอากาศที่ไม่ดี

การกลับลำของดับเบิลยูเอชโอครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีนักวิทยาศาสตร์ 239 คน จาก 32 ประเทศทั่วโลก ทำจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ท้วงติงดับเบิลยูเอชโอว่า ประเมินความเป็นไปได้ต่ำเกินไป เกี่ยวกับโอกาสที่โควิด-19 จะสามารถแพร่เชื้อผ่านทางอากาศได้ เพราะปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ละอองฝอยขนาดเล็กมาก สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง หลังจากการพูด หรือจากลมหายใจออก

และนับเป็นการเปลี่ยนจุดยืนเป็นครั้งที่ 2 เกี่ยวกับการระบาดของโควิด19 โดยก่อนหน้านี้ ดับเบิลยูเอชโอได้กลับลำเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยแบบผ้า จากที่ไม่เคยแนะนำให้ใส่ มาเป็นการแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยแบบผ้าว่า เป็นอีกมาตรการหนึ่ง ที่จะสามารถป้องกันผู้ใส่ จากการติดเชื้อโควิด19 ได้

หากการที่โควิด-19 สามารถติดต่อผ่านทางอากาศได้ ได้รับการพิสูจน์ยืนยันอย่างชัดเจน อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในสถานที่ปิดภายในร่ม โดยน่าจะแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยมากขึ้น และให้รักษาระยะห่างทางสังคม ภายในสถานที่ปิด อย่างผับ บาร์ ร้านอาหาร และในระบบขนส่งมวลชน

เป็นเวลานานหลายเดือนที่ผ่านมา ที่ดับเบิลยูเอชโอเพียงแต่ยืนยันว่า ไวรัสโควิด19 สามารถติดต่อผ่านทางละออยฝอยขนาดเล็ก ที่เกิดจากการไอหรือจาม แต่ยังคงยืนยันว่า ละอองฝอยเหล่านั้น ไม่สามารถอยู่ในอากาศได้ แต่จะตกลงบนพื้นผิว

ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอชโอจึงแนะนำเพียงการล้างมือบ่อยๆ ให้เป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า หลักฐานใหม่ที่เพิ่งปรากฏดังกล่าว ยังเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น และจะต้องได้รับการประเมินวิเคราะห์ต่อไป