จากกรณีที่ น.ส.จตุพร คำเอี่ยม ได้โพสต์ในเฟซบุ๊คว่า ลูกสาวถูกครูที่ ร.ร.แห่งหนึ่ง อ.ยางชุมน้อยจ.ศรีสะเกษ ใช้กรรไกรตัดผมลูกสาวหน้าเสาธง โดยครูตัดผมข้างหู 2นิ้วตัดจากด้านหน้าเกือบถึงท้ายทอย ทำให้เด็กเกิดความอับอายเพื่อนนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แพอาหารหาดบ้านแก้ง ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ พบกับน.ส.จตุพร คำเอี่ยม อายุ 33ปี เจ้าของแพจำหน่ายอาหารริมฝั่งแม่น้ำมูลมารดา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนแห่งหนึ่ อ.ยงชุมน้อย
โดยด.ญ. เอ เล่าว่าเมื่อวันที่24มิ.ย. 63ทางโรงเรียนได้ประชุมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกคน เพื่อกำหนดวัน เวลาจ่ายค่าบำรุงโรงเรียน และรับสมุดหนังสือเรียนโดยครูได้แจ้งในที่ประชุมว่า นักเรียนหญิง ม.3ทุกคน ต้องตัดผมไม่เลยคาง ก่อนเปิดเทอมจึงได้ไปตัดผม เมื่อถึงวันเปิดเทอมวันที่1ก.ค. 63 ผมยาวเลยคางเล็กน้อย
จากนั้นเมื่อวันที่3ก.ค. 63 ได้เข้าแถวหน้าเสาธงครูผู้ชายได้เดินมาตรวจผม แล้วบอกว่าผมยาวเลยคาง จากนั้นใช้กรรไกรตัดเส้นผมถึงติ่งหูทำให้ไม่เป็นทรง และมีเพื่อนถูกตัดผมแบบเดียวกันอีกหลายคน ก่อนเปิดเทอมได้ไปสอบถามครูหลายคนว่า นักเรียนหญิง ม.ต้น ต้องตัดผมให้ยาวได้ไม่เลยคางหรือว่า ตัดผมให้ยาวได้ไม่เกินติ่งหูแต่ว่าไม่มีครูคนใดให้คำตอบที่ชัดเจน จึงไม่รู้ว่าจะต้องตัดเส้นผมยาวเท่าใด เมื่อเกิดเหตุในลักษณะนี้ทำให้รู้สึกอายเพื่อน
ด้านน.ส.จตุพร กล่าวว่า ก่อนโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียนั้น ได้โทรศัพท์ติดต่อหาครูฝ่ายปกครองถึง 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครรับสาย ยิ่งทำให้เสียความรู้สึกที่ครูทำเช่นนี้แทนที่จะตักเตือนก่อนเพื่อให้นักเรียนไปตัดผมให้เรียบร้อย ต้องการทราบเหตุผลที่ครูตัดผมให้ลูกสาว สั้นยาวไม่เท่ากัน
หากครูตักเตือน หรือตัดเพียงเล็กน้อย เพื่อให้นักเรียนไปตัดผมให้ถูกต้องมาให้ถูกระเบียบ ซึ่งหลังจากโพสต์แล้ว พบว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ครูที่ปรึกษาโทรศัทพ์มาขอให้ลบโพสต์และให้ขอโทษโรงเรียน โดยในวันพุธที่ 8 ก.ค. 63 จะเดินทางไปพูดคุยกับทางโรงเรียนดังกล่าว