สารวัตรหนุ่มรายนี้เข้ามาอยู่ในชุดสีกากีครั้งแรกที่ สน.ปทุมวัน ก่อนโยกมาเป็น รองสารวัตรที่ กก.1บก.ป. ทั้งหมด 4 ปี จากนั้นก็ขยับขึ้นเป็น สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หรือสารวัตรทางหลวงนครปฐม รับผิดชอบพื้นที่จังหวัด นครปฐม, สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
เจ้าตัวเล่าว่า สมัยอยู่ สน.ปทุมวัน ได้ทำงานทั้งด้านสืบสวน สอบสวน และงานป้องกันและปราบปราม ยังจำเคสจับผู้ต้องหาลักรถยนต์เอาเข้ามาในพื้นที่ได้ดี ถือเป็นงานสืบสวนชิ้นแรกๆ ที่ได้ทำ จึงยังอยู่ในความประทับอยู่
"ผมเป็นคนที่ชอบการเรียนรู้ และรักการพัฒนาตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อได้รับโอกาสที่ดีจากผู้บังคับบัญชาแล้ว ผมจะต้องทำให้ดีที่สุด"พ.ต.ต.กฤตย์ กล่าว
เมื่อถามว่าการได้มาเป็นตำรวจทางหลวงนั้นจะเข้ามาทำอะไรให้กับตำรวจทางหลวงบ้างพ.ต.ต.กฤตย์ บอกว่า สิ่งที่ผมจะทำคือการเปลี่ยนสถานีตำรวจทางหลวงธรรมดา ให้เป็นสถานีตำรวจทางหลวงเพื่อประชาชนเปลี่ยนจากสถานีที่เข้ามาแล้วมีแต่ความทุกข์ ให้เป็นสถานที่ที่เข้ามาแล้วเพลิดเพลินใจ เป็นศูนย์กลางในการอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเเท้จริง ทั้งนี้ส.ทล.1ฯ (นครปฐม) เป็นสถานีที่ต้องรับผิดชอบทุกหน้างาน ไม่ว่าจะเป็นงานถวายความปลอดภัย งานบริการประชาชน งานจราจร งานสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมบนท้องถนน ตลอดจนงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางหลวง
"ตำรวจทางหลวง มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากอยู่แล้ว ดังนั้นโครงการที่ผมจะทำ จะต้องไม่ไปเพิ่มภาระให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานได้ง่ายขึ้น ผมจะให้ความสำคัญกับระบบ มากกว่าตัวบุคคล เมื่อผมไม่ได้อยู่ที่นี่ หรือย้ายไปที่อื่นโครงการของผมจะยังคงอยู่"เจ้าตัวกล่าวหนักแน่น
โดยจุดเด่นของโครงการนี้ พ.ต.ต.กฤตย์ บอกว่า คือการใช้สถานที่และอุปกรณ์เดิมที่เรามีอยู่แล้ว มาทำประโยชน์ให้กับสังคม และยังเป็นการทำให้ภูมิทัศน์ของสถานี ให้สวยงาม ประชาชนสามารถเข้ามาใช้บริการตัดผม เข้ามาถ่ายรูป หรือเช็คอิน แบบสถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุคได้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คำถามสุดท้าย"สารวัตรเกลือ"ยึดคติอะไรในการทำงาน
"ไอเดียดีดี ไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก มันจะสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อเราลงมือทำ" สารวัตรเกลือกล่าว