ปิดฉากตำนานอันยืนยาวกว่า 51 ปี ครั้งนี้ หอภาพยนตร์ได้คัดสรรภาพยนตร์ 4 เรื่อง มาฉายในโปรแกรมอำลา เริ่มด้วย Blow-Up หนังระทึกขวัญคลาสสิกของผู้กำกับชั้นครูชาวอิตาเลียนมิเคลันเจโล อันโตนิโอนีหนังชนะเลิศรางวัลกรังปรีซ์ รางวัลสูงสุดในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประจำปี 2510
ตามมาด้วยภาพยนตร์สารคดี 2 เรื่อง จากคนทำหนังไทย เริ่มด้วย The Scala สารคดีว่าด้วยความรุ่งเรือง และร่วงโรยของการอุทิศตัวของคนทำงานในโรงหนังสกาลา ซึ่งเป็นผลงานในโครงการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เอเชีย โดยเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน เมื่อปี 2559 ของ อาทิตย์ อัสสรัตน์ ต่อด้วย นิรันดร์ราตรี Phantomof Illumination สารคดีเชิงทดลองปี 2560 ของ วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัยที่เดินสายฉายตามเทศกาลต่าง ๆ มาแล้วทั่วเอเชีย ถ่ายทอดชีวิตของพนักงานฉายหนังของโรงหนัง ที่ต้องปิดตัวและถูกทุบทำลายลง
รูดม่านด้วยภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายCinema Paradisoผลงานของจูเซปเป ทอร์นาทอเรหนังอิตาเลียนเรื่องดังที่เฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ และเสน่ห์ตรึงตาของโรงภาพยนตร์ ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วทั่วโลก เป็นดั่งบทส่งท้ายให้แก่สกาลา ในฐานะสรวงสวรรค์ของคนรักหนัง
โดยในการจัดฉายครั้งนี้ หอภาพยนตร์ได้จัดที่นั่งสำหรับผู้เข้าชมตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ยอดผู้ชมในแต่ละรอบนั้นลดลงไปกว่าครึ่ง มีการตรวจวัดอุณหภูมิ และมีเจลล้างมือไว้บริการ ตามมาตรฐานการบริการในช่วงเวลานี้
ชลิดา เอื้อบำรุงจิตผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ พูดถึงการร่วมจัดงานส่งท้ายครั้งนี้ว่า
"เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 27 ตุลาคม ในโอกาสวันมรดกโสตทัศน์โลก หอภาพยนตร์ได้ติดป้ายจารึกโรงภาพยนตร์สกาลา ในฐานะสถานที่สำคัญทางมรดกโสตทัศน์ของชาติ และเป็นโรงภาพยนตร์แบบstand aloneแห่งสุดท้ายในกรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากองค์การยูเนสโก ร่วมกับคุณนันทา ตันสัจจา เจ้าของและทายาทของผู้สร้างโรงภาพยนตร์สกาลา...
นอกจากนี้หอภาพยนตร์ ได้ร่วมกับโรงภาพยนตร์สกาลา จัดฉายภาพยนตร์คลาสสิกจากทั่วโลกที่ทรงคุณค่าหาชมได้ยากมานานหลายปีรวมไปถึงโปรแกรม ทึ่ง! หนังโลก ที่มีผู้ชมให้ความสนใจและทำให้โรงสกาลาคึกคักด้วยคนดูทุกรุ่น เป็นการนำเอาศักยภาพความเป็นโรงขนาดใหญ่ที่มีบุคลิกโอ่โถงคลาสสิกออกมาได้เต็มที่ สถาปัตยกรรมอันมีคุณค่าของสกาลาหาไม่ได้อีกแล้วในโรงหนังส่วนใหญ่ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นหมุดหมายของภูมิทัศน์แห่งเมืองกรุง ...
ส่วนโปรแกรม ลา สกาลา ที่มีหนังสี่เรื่อง เราเลือกหนังไทยและเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับโรงภาพยนตร์ ทั้งความรุ่งเรืองและความแตกดับ อีกทั้งยังเป็นหนังที่แสดงพลังและศักยภาพของภาพในฐานะศิลปะและสื่อที่เข้าถึงผู้คน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของสกาลาเป็นครั้งสุดท้าย"