โดยล่าสุดบ๊วย เชษฐวุฒิ และ อ.เจมส์พิธีกรรายการ ช่องส่องผีได้ออกมาชี้แจงเรื่องการรับบริจาคเงินทั้งหมด และแจงว่าทำไมถึงมีการออกมาแถลงข่าวด่วนในเวลานี้ แทนที่จะเป็นวันจันทร์ ที่ 6 กค. ตามที่เคยแจ้งไว้ โดย บ๊วย พูดอย่างมีอารมณ์ว่า
"ที่ผมต้องมาแถลงด่วน เพราะมันมีประเด็น มีประเด็นเงินยกช่อฟ้าล้านนึง เป็นชื่อผม ในใบอนุโมทนาบัตร พระท่านก็โทรมาหาผมถามว่าโยม เรื่องของการแถลงข่าว ไม่มีที่วัดได้มั้ย ผมก็บอก ได้ครับท่านก็ถามว่า เทียนพรรษาไม่ถวายที่วัดได้มั้ย แต่ผมซื้อเทียนพรรษามาแล้ว ผมโดนคดีอะไร ผมผิดอะไรหรอใบอนุโมทนาบัตรทำไมต้องมีชื่อผมในใบนั้น ผมคุยกับผู้รู้แล้วเรื่องนี้ ทำไมใบอนุโมทนาบัตร จะเป็นชื่อผมไม่ได้ ตามที่ผมสอบถามกรมสรรพากรมาแล้ว"
ทั้งนี้ บ๊วย ยังบอกความรู้สึก ว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาอย่างมาก เพราะเขาคิดว่าตัวเองกลายเป็นตัวซวยไปแล้ว
"ตื่นเช้ามา ไม่มีความสุข มึนปวดหัวไปหมด ผมก็ตั้งหลัก ตั้งใจไปทำบุญที่วัด และจะแถลงข่าววันนั้น ไม่มีเจตนาหลบเลี่ยง เพราะเราก็ต้องเตรียมตัวหลายคน ถามว่า ทำไมเรนนี่ไม่มา หลายคนสงสัย อ.เรนนี่ ไปทำบุญที่เชียงใหม่ ตามกำหนดการเดิมอยู่แล้ว"
บ๊วย กล่าวต่อว่า แค่จะทำบุญถวายเทียนพรรษา ที่วัดยังไม่ได้ ข่าวที่เกิดขึ้น เหมือนตัวเองถูกทำลายศรัทธา และความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว
"ผมถูกทำลายศรัทธาจากคนที่เขาศรัทธาช่องส่องผีผมไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว ถวายเทียนพรรษาที่วัดก็ไม่ได้แล้ว ถ้าวัดไม่รับเงินล้านนี้ ผมจะโอนเงินคืนทุกคนหมด ทุกบัญชี ผมไม่โกงแน่นอน แต่อาจจะช้าหน่อยนะ สิ่งที่ผมทำช่องส่องผี ไม่ใช่แค่รายการทีวีที่หากิน แต่ทุกคนไม่รู้ว่าผมทำช่องส่องผี จากหนังชื่อช่องส่องผี ผมเห็นเพื่อนมีกล้องส่องผี ผมเลยช่วยเพื่อน ทำไปทำมา เลยไปชวน อ.เรนนี่ มาเป็นที่ปรึกษาด้วย อยากช่วยเพื่อน"
"และผมเองก็ถือศีล 5 ตลอดชีวิต ผมเจอมากับตัวเลยต้องถือศีล 5 ผมไม่ได้เจตนาทำรายการเพื่อมารับบริจาคแบบนี้รายการช่องส่องผี คือชีวิตของผม นำเสนอ บาป บุญ คุณ โทษ"
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่บ๊วย พูดในการแถลงข่าววันนี้ ซึ่งประเด็นอื่นๆ จะนำเสนอรายละเอียดต่อไป