svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดขุมทรัพย์กระทรวงพลังงาน เม็ดเงินแสนล้านต้นเหตุรุมทึ้ง?

01 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รู้หรือไม่ทำไมเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานจึงเป็นที่หมายปองของบรรดานักการเมืองเขี้ยวสั้น เขี้ยวยาว หน้าเก่า หน้าใหม่ ทั้งๆ ที่งบประมาณของกระทรวงนี้มีอยู่กระจุ๋มกระจิ๋มแค่ 2 พันกว่าล้าน แต่กองทุนใหญ่ 2 กองทุนและผลประโยชน์จากสัมปทานแหล่งพลังงานที่ซ่อนอยู่นับแสนล้านนั่นต่างหากที่เย้ายวนเสียเหลือเกิน

"จะรีบทำไปทำไม" คือคำพูดที่ออกจากปากของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ในที่ประชุม ครม.
โดยเหตุผลที่นายสุริยะต้องโพล่งประโยคนี้ออกมา ก็เพื่อเบรกการนำเสนอให้เดินหน้ามาตรการฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิดอย่าง "พลังงานสร้างไทย" ของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่จับใจความแล้วต้องการจะเน้นหนักไปที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุมชน

คอการเมืองทั้งหลายย่อมรู้ดีว่า ระหว่าง 2 ขุลพลพลังประชารัฐ ใครกันแน่ที่มีภาษีดีกว่ากันในสายตาหัวหน้าพรรคคนใหม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดูได้จากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคล่าสุดที่เพิ่งปรับเปลี่ยนไป ไม่ต้องเดาให้ยุ่งยาก และยิ่งถ้าย้อนกลับไปถึงศึกชิงเก้าอี้เมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกำลังจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีสำหรับ ครม.ประยุทธ์ 2/1 ช่วงหลังเลือกตั้ง ก็เป็นที่รู้กันดีว่านายสุริยะหมายตาเก้าอี้เจ้ากระทรวงพลังงานไว้แต่ต้น เมื่อต้องอกหัก และหลบเลียแผลใจที่กระทรวงอุตสาหกรรมมานานเป็นแรมปี ความอัดอั้นนี้จึงสะสมรอวันเอาคืน
และวันนี้โอกาสมาถึงแล้ว เมื่อเขาและพลพรรคสามมิตรพลิกหนุน "บิ๊กป้อม" ผงาดขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคชนิดที่ไม่ต้องส่งใครแข่ง
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะได้เก้าอี้นี้ไปครอง แต่อยู่ที่ว่าทำไมนักการเมืองจึงอยากเป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงนี้กันนักมากกว่า ว่ากันว่าการได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนั้นเหนือกว่ากระทรวงใดๆ เพราะมีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่มากมายมหาศาล ที่ต้องใช้คำว่า "ซ่อน" นั้นไม่ผิดแน่ เพราะกระทรวงนี้เปรียบง่ายๆ ก็เหมือน "พระสังข์ทอง" ที่หลบอยู่ภายใต้ร่าง "เงาะป่า" ภาพลักษณ์ดูธรรมดา แต่ภายในนั้นรูปทอง

เราดูรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน นั่นคืองบประมาณของกระทรวงแต่ละปีที่ได้รับการจัดสรร ล่าสุดในงบประมาณรายจ่ายปี 64 ที่กำลังพิจารณากันอยู่ในสภา กระทรวงพลังงานตั้งงบประมาณไว้ที่ 2,390.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.1 ของงบทั้งประเทศ 3.3 ล้านล้านบาท เมื่อนำไปเทียบกับกระทรวงอื่นที่ได้เป็นหมื่นล้าน แสนล้าน ตัวเลขของกระทรวงพลังงานดูกระจุ๋มกระจิ๋มไปเลย
แต่ถึงจะน้อยก็น้อยแต่ภายนอก เพราะภายในนั้นไม่ธรรมดา คนที่พร้อมเปิดเผยเรื่องนี้คือ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงาน รสนา โตสิตระกูล ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วง "จับกระแส" รายการเก็บตกจากเนชั่นภาคเที่ยง (1 ก.ค.) เริ่มจากคำพูดที่ว่า "ถึงงบน้อยแต่มีกองทุนสะสม" ซึ่งกองทุนที่ว่ามีกองทุนน้ำมัน และกองทุนอนุรักษ์พลังงาน รวมๆ แล้วมีเม็ดเงินอยู่ราว 70,000-80,000 ล้านบาท ที่สำคัญคือคุณรสนาบอกว่า เงินจากกองทุนถูกนำไปใช้ค่อนข้างอิสระ มีการตรวจสอบน้อยมาก

logoline