svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

สุดเวทนา! "น้องภูเก็ต" ควายเผือกถูกสับเป็นชิ้นๆ และไม่ยอมส่งซากคืนให้มูลนิธิ

01 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้โพสต์ข้อความและภาพสุดเวทนา ของ "น้องภูเก็ต" ควายเผือกที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ และทาง มูลนิธิฯ ได้เข้าร้องทุกข์เนื่องจาก โรงพยาบาลสัตว์ มอ.ไม่ยอมส่งซากคืน

โดยทาง เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้ระบุข้อความไว้ว่า.....
สุดเวทนา#น้องภูเก็ต" ควายเผือกถูกสับเป็นชิ้นๆ ส่วนเนื้อควายน้ำหนัก 400 กิโล ราคาท้องตลาด กิโลละ400.- บาทหายไปโรงพยาบาลสัตว์ มอ.ไม่ยอมส่งซากให้มูลนิธิ จนต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ สภ.คอหงส์ จังหวัดสงขลา

สุดเวทนา! "น้องภูเก็ต" ควายเผือกถูกสับเป็นชิ้นๆ และไม่ยอมส่งซากคืนให้มูลนิธิ


สิบโมงเช้าวันนี้ สภาทนายความสงขลา เข้าร่วมดูแลการแจ้งความโดยตัวแทนมูลนิธิ กรณีเรื่องแปลกแต่จริง มูลนิธิอนุรักษ์โคกระบือไทยเพื่อชีวิตใหม่แก่สัตว์ถูกทอดทิ้ง นำส่ง "น้องภูเก็ต"ควายเผือกถูกรถชนขาหัก ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 แต่จู่ๆก็ได้รับการแจ้งว่าน้องภูเก็ตตาย ในวันที่ 19 มิถุนายน 2563
#โดยไม่ทราบสาเหตุโดยไม่มีเอกสารยืนยันผลชันสูตรหรือการผ่าพิสูจน์
#นอกจากนั้นน้องภูเก็ตยังถูกสับเป็นชิ้นๆอย่างน่าเวทนาและไม่ยอมส่งซากคืนให้มูลนิธิ 
จนต้องร้องเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา พร้อมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจในท้องที่ โดยสพ.ถลางในการกำกับดูแลของผู้กำกับถลางต้องทำหนังสือขอรับคืนซากสัตว์เนื่องมาจากน้องภูเก็ตเป็นของกลางในคดีควายถูกรถชนในเขตอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต !
หลังรับทราบว่า น้องภูเก็ตเสียชีวิต มูลนิธิฯประสงค์นำซากไปทำพิธีบังสกุล อุทิศส่วนกุศล และฝังซากให้น้องควายภูเก็ตได้ไปสู่สุคติแต่ มอ.กลับไม่ยอมส่งซากให้ อ้างว่า ไม่ทราบเจ้าของ ทั้งที่ ปศุสัตว์ภูเก็ต เป็นผู้นำส่งพร้อมใบเคลื่อนย้ายอย่างถูกต้องโดย น้องภูเก็ตเป็นควายเผือกของกลางที่มีมูลนิธิ เป็นผู้ดูแลผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษา

สุดเวทนา! "น้องภูเก็ต" ควายเผือกถูกสับเป็นชิ้นๆ และไม่ยอมส่งซากคืนให้มูลนิธิ


โดยก่อนหน้านี้ คณบดีคณะสัตวแพทย์ฯแจ้งมูลนิธิขอรับเงิน 10,000 บาท จากมูลนิธิอ้างนำไปซื้อรอก แต่ในที่สุดไม่ได้ซื้อ อธิการบดีจึงสั่งให้คณะฯคืนเงินให้มูลนิธิ
ปศุสัตว์ภูเก็ต ยืนยันว่า ก่อนหน้าวันที่ 19 มิถุนายน คืนที่ควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่มีเอกสารการผ่าชันสูตรทางโรงพยาบาล เชิญประชุม ขอเก็บเงินปศุสัตว์ฯ จำนวน 30,000. บาท อ้างเป็นควายที่ไม่มีเจ้าของเคส !
ทั้งที่ ตลอดเวลาที่ทำการรักษา มูลนิธิมีการสื่อสารกับ ผอ.โรงพยาบาล มีการรายงานการรักษาและรูปถ่ายควายเผือก น้องภูเก็ต ตั้งแต่แรกทุกวัน เป็นหลักฐานแสดงว่าทางโรงพยาบาลทราบมาตั้งแต่รับควายเข้ารักษาว่า มูลนิธิฯเป็นเจ้าของเคส ที่รับผิดชอบดูแลรักษาควายจนจบการรักษา และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเรื่องค่ารักษากับปศุสัตว์ภูเก็ตแต่อย่างใด
หลังการประชุมที่ปศุสัตว์ไม่จ่ายจึงหันกลับไปทวงถามเงินค่ารักษาที่อ้างว่ามูลนิธิไม่ยอมจ่าย เป็นจำนวนเงิน63,000.-บาท !
คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มอ. น่าจะต้องตอบคำถามมูลนิธิ สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน ให้ได้นะครับ
1.หลังการทวงถามเงินจากปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตแล้วไม่ได้คืนวันที่ 19 มิถุนายน 2563 น้องภูเก็ตควายเผือกตาย ! โดยไม่ทราบสาเหตุเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลส่งภาพให้พร้อมเลือดภายในคอก ตัวแทนมูลนิธิพบเห็นควายน้ำลายฟูมปากแล้วหลังจากนั้นควายก็หายไป ติดตามหาไปทั่วโรงพยาบาลก็ไม่พบ !
2.หลังมูลนิธิรับทราบว่าควายตาย และพยายามขอรับทราบผลการผ่าชันสูตรแต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงว่าไม่ให้ ! ให้ไม่ได้ ! ทั้งๆที่มูลนิธิคือเจ้าของเคสและเป็นผู้ดูแลรักษาของกลาง !
แต่มีการออกหนังสือถึงปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 23 มิถุนายน 2563 อ้างว่าควายตายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 และได้มีการชันสูตรซากพบเสียชีวิตเนื่องจากเส้นประสาทขาหน้าทั้งสองข้างถูกทำลายจากการถูกรถชน ไม่สามารถลุกขึ้นได้ทำให้เกิดบาดแผลกดทับอวัยวะภายในเกิดการอักเสบยึดติดกัน ไม่ค่อยกินอาหารทำให้อ่อนแอลงและติดเชื้อจากบัตรแผลกดทับเข้าสู่อวัยวะต่างๆในร่างกายจนไม่สามารถทำงานได้ต่อไป !
ตรงกันข้ามกับคำให้การของตัวแทนมูลนิธิซึ่งคอยดูแลควายทุกวัน และยืนยันว่าควายกินอาหารปกติ !
3.ในที่สุดมูลนิธิ ก็ได้รับทราบว่าซากของน้องภูเก็ตถูกนำไปหั่นเป็นชิ้นๆ เมื่อสอบถามอ้างว่า ไม่มีที่เก็บ! แต่มีร่องรอยแล่เนื้อหายไป 400 กิโล ! 
มูลนิธิประสงค์นำน้องภูเก็ตไปทำพิธีบังสุกุลและทำบุญอุทิศส่วนกุศล ก็ยังไม่ยอมคืนซากให้ จนต้องขอให้ผู้กำกับถลางทำหนังสือขอรับซากคืนในฐานะเจ้าของทรัพย์ของกลาง !
WDT ดำเนินการให้ มูลนิธิโคกระบือฯ ประสาน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต. ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา มอบหมายสั่งการให้ตัวแทนมูลนิธิเข้าแจ้งความดำเนินคดีพร้อมสภาทนายความสงขลาประสานเข้าร่วมดูแลกำกับการดำเนินคดี วันนี้ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 10:00 น.
ในฐานะที่มูลนิธิ เป็นผู้ส่งรักษา และ มีพยานยืนยันว่า ควายน้ำลายฟูมปากและมีเลือดออกตามภาพ จึงสงสัยว่า ควายจะถูกทารุณกรรม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่ม เรื่อง 
1. ทารุณกรรมสัตว์ 
2. สัตว์นั้นเป็นของกลาง ของ สภ.ถลาง เท่ากับ มีการทำลายของกลาง
3. ลักทรัพย์ เพราะแล่เนื้อเอาไปขาย ถือว่าเป็นการเอาไปโดยทุจริต หมายถึงลักทรัพย์
ลักทรัพย์นะครับไม่ใช่แค่ยักยอกทรัพย์ เพราะเขาเอาทรัพย์ไปฝากให้รักษา แต่กลับแล่เอาเนื้อไปขาย ! ( เป็นหน้าที่ให้ตำรวจสืบสวนและสอบสวน)
4. ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นหลักฐานในคดี
ผกก.ถลาง เป็นเจ้าของทรัพย์ของกลางครับ มูลนิธิ เป็น "ผู้ดูแล" ของกลาง ด้วยการส่งควายไปรักษา และไม่ได้อนุญาตให้มีการชำแหละหรือจำหน่ายหรือนำไปขาย
ถือว่ามูลนิธิเป็นผู้เสียหายด้วยครับ
ติดตามเรื่องแปลกแต่จริงคดีนี้กันครับ
RIP น้องภูเก็ต สู่สุขคตินะควายน้อย

logoline