ติด "สมคิด" ทำเศรษฐกิจชาติไม่เดินหน้า

(30 มิถุนายน 2563) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การที่พรรคสนับสนุน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจนั้น ซึ่งการตั้งกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา อาจมีการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าทีมเศรษฐกิจ มีนางนฤมลเพียงคนเดียว แต่ความจริงมีทีมคิดเตรียมไว้ทั้งคนนอกที่จะเข้ามาร่วมทำงานกับพรรคเพื่อบริหารบ้านเมืองจำนวนมาก แต่ยังไม่อยากเปิดเผยชื่อ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบุคคลมีชื่อเสียงอยากมาช่วย แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะติด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่มีทฤษฎีไม่สามารถปฏิบัติได้ในตอนนี้แล้ว พูดได้ว่าไม่เวิร์ก จึงทำให้คนใหม่ไม่สามารถเข้ามาได้ ซึ่งคิดว่าถ้านายสมคิดออกไป ก็จะทำให้คนใหม่เข้ามาได้อีกเยอะ โดยเฉพาะการทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งที่พูดสะท้อนมาจากความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งเบื่อหน่ายกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้น การแก้ปัญหาจำเป็นต้องระดมคนใหม่เข้ามาช่วยกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าการพูดเช่นนี้หมายถึงต้องการให้นายสมคิดลาออกหรือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรีบปรับ ครม. นายชัยวุฒิกล่าวว่า แล้วแต่นายสมคิดจะคิด แต่อยากให้สังคมเข้าใจว่าพรรคมีบุคลากรจากทุกภาคส่วน เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจขับเคลื่อนบ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปดูแลประชาชน แต่วันนี้ (30มิ.ย.) ยังติดขัดเพราะคนเก่ายังอยู่ ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ คนใหม่ก็เข้ามาไม่ได้
ส่วนกรณีนายสมคิดยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ถือว่าไม่ใช่ทางออก สภาฯไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะทุกวันนี้ปัญหาอยู่ที่การแก้เรื่องเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจเอง ฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด ส่วนสภาฯพร้อมทำงานต่อ เพื่อดูแลประชาชน ยืนยันว่าสมาชิกของพรรคส่วนใหญ่ก็มีความเห็นเช่นเดียวกับตน

"เพราะการปรับเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ได้แย่งผลประโยชน์กันหรือมุ่งต่อสู้ทางการเมือง แต่เรากำลังอหาแนวคิดใหม่ และคนใหม่เข้ามาทำงาน การปรับเปลี่ยนเรื่องทีมเศรษฐกิจก็ไม่ใช่ตำแหน่งรองนายกฯ เพียงแค่ตำแหน่งเดียว เชื่อว่านายกฯจะพิจารณาในตำแหน่งอื่นๆด้วย เพื่อให้คนเก่ง มีชื่อเสียง มีฝีมือเข้ามาทำงาน พรรคก็ยินดีที่จะให้คนนอกที่มีฝีมือเข้ามาทำงาน"นายชัยวุฒิ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่คนดีๆ จะไม่กล้าเข้ามาทำงานด้วย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ถ้าความดี ไม่เหมาะสมกับการเมือง ก็ไม่ต้องเข้ามาเพราะยังมีคนดีที่เหมาะสมอีกเยอะ