"ทิพานัน" จี้ "ช่อ" ตอบ 3 ข้อ เงินบริจาค "เมย์เดย์"

(30 มิถุนายน 2563) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีต ผู้สมัครส.ส. กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์เรียกร้องให้เปิดเผยหลักฐาน หลังโลกโซเชียลแชร์ข้อมูลว่าผู้ได้รับเงิน3,000 บาท  จากคณะก้าวหน้าไม่มีตัวตนในทะเบียนราษฎร์และขู่จะดำเนินคดีว่า น.ส.พรรณิการ์ เหยียบย่ำหลักการของตนเองที่มักกล่าวอ้างสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกความเห็นจนถึงขั้นเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายที่มีไว้เพื่อคุ้มครองผู้ที่ถูกดูหมิ่น หมิ่นประมาท และตกเป็นเหยื่อจากการแสดงความคิดเห็นที่เกินขอบเขตของกฎหมาย เมื่อถูกตรวจสอบย้อนกลับบ้าง น.ส.พรรณิการ์มีท่าทีเหมือนกลืนน้ำลายตนเอง ย้อนแย้ง ซึ่งเป็นท่าทีที่พบเห็นได้หลายครั้ง เช่น การใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. จากรัฐธรรมนูญที่ตนเองประณามด้วยคำหยาบและต้องการยกเลิกแก้ไขมาใช้คุ้มครองตนเองในคดีความ และคราวนี้ก็มีพฤติกรรมซ้ำเดิม เหมือนจะพยายามใช้กฎหมายที่ตนเองต้องการยกเลิกมาคุ้มครองประโยชน์ตนเอง เข้าตำรา เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากกรณีนี้ น.ส.พรรณิการ์ จะต้องออกมาแสดงหลักฐานต่อสาธารณชน เพื่อปราศจากข้อสงสัย เพราะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ในเรื่องของการรับบริจาคเงิน ซึ่งตนขอยก 3 ประเด็น ที่ต้องสร้างความชัดเจน คือ1.การเรี่ยไรเงินบริจาคกิจกรรมเมย์เดย์ฯนั้น ได้มีการยื่นขออนุญาตกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะแสดงความโปร่งใสหรือไม่ เพราะในทุกๆครั้งที่จะมีการเรี่ยไรเงิน มีกฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่เปิดรับเรี่ยไรเงินบริจาคจะต้องมีการขออนุญาต และที่สำคัญเมื่อมีผู้บริจาคเงินเข้ามาแล้ว ทางเจ้าของโครงการที่เปิดเรี่ยไรเงินจะต้องมีการออกใบเสร็จรับเงินหรือว่าหลักฐานแสดงการรับเงินให้อย่างชัดเจน2.เมื่อมีการรับเงินเข้ามาแล้ว น.ส.พรรณิการ์จะแสดงให้ประชาชนเห็นได้อย่างไรว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นไปตามจำนวนที่ได้ชี้แจงมาหรือไม่ รวมถึงมีการแบ่งแยกเงินส่วนตัวกับเงินที่มีผู้บริจาคเข้ามาอย่างไร เพราะบัญชีที่ให้ผู้บริจาคโอนเข้าเป็นบัญชีส่วนตัวของ น.ส.พรรณิการ์ ดังนั้นจึงต้องออกมาชี้แจงและแสดงหลักฐานให้ประชาชนด้วย

3.เรื่องของการจ่ายเงินไปให้กับผู้ที่ขอรับบริจาค รายชื่อของผู้ที่รับบริจาคต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเป็นผู้ที่มีตัวตนจริงๆและบุคคลเหล่านั้นได้ รับความช่วยเหลือจากเงินของโครงการจริงๆ โดยการแสดงหลักฐานให้กับประชาชน และที่สำคัญคนที่ได้รับเงินช่วยเหลือนี้ มีประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้ที่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกันหรือไม่ เพราะว่าจากรายชื่อที่แสดงออกมามีบุคคลที่มีนามสกุลเหมือนกับ น.ส.พรรณิการ์ คือ "วานิช" ดังนั้นจึงเป็นที่สงสัยของประชาชน จึงต้องชี้แจงให้ประชาชนเห็นว่าบุคคลที่ได้รับเงินจากโครงการนี้ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเป็นใจ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ น.ส.พรรณิการ์และคณะผู้จัดกิจกรรมนอกจากนี้ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังได้ฝากถึง น.ส.พรรณิการ์ไว้ให้คิดอีกเรื่อง คือ เรื่องของการเปิดเผยรายชื่อของผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือ จะสุ่มเสี่ยงหรือว่าผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ ได้มีการขออนุญาตจากบุคคลเลฟ่านั้นหรือไม่ก่อนจะนำรายชื่อมาเปิดเผยต่อสาธารณชน