"อัสสัมชัญ"ออกมาตรการสกัดโควิด 19รับมือเปิดเรียน 1 ก.ค.
โรงเรียนอัสสัมชัญ วางแนวทางป้องกันการระบาดของโควิด - 19 รองรับการเปิดเรียน 1 ก .ค. ควบคุมตั้งแต่ การเข้ามาภายในสถานที่ ทั้งนักเรียนและบุคลากรของสถานศึกษา ย้ำในรายที่พบอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ต้องเข้าสู่จุดพักสังเกตอาการ ตรวจสอบอาการ-ซักประวัติ เพื่อเข้าสู่การส่งต่อตามมาตรการที่สาธารณสุขกำหนด
มาสเตอร์โอภาส ธิราศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายปกครอง และประธานกรรมการมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โรงเรียนอัสสัมชัญ ( บางรัก ) กรุง เทพฯ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารสถานศึกษา ให้กำกับมาตรการในการดูแลนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน เพื่อเฝ้าระวังการระบาดของ โควิด -19 ในวันเปิดภาคเรียนที่จะมาถึง ( 1 กรกฏาคม ) โดยมีคณะกรรมการร่วมกันกำหนดมาตรการประกอบด้วย
การเข้ามาภายในบริเวณสถานศึกษา เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร มีจุดคัดกรองและการเข้า-ออก เพียงจุดเดียว ผ่านเครื่องสแกนใบหน้า (Face Scan) ในการตรวจวัดอุณหภูมิ และการบันทึกการเข้าเรียนและเข้าทำงานของบุคลากร ผ่านไปยังระบบแอพพลิเคชั่นของทางโรงเรียน สำหรับนักเรียนที่มีอุณหภูมิที่สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ต้องเข้าสู่จุดพักสังเกตอาการ โดยมีครูงานสุขอนามัยและพยาบาลวิชาชีพ ตรวจสอบอาการและซักประวัติ เพื่อเข้าสู่การส่งต่อตามมาตรการที่โรงเรียนกำหนด โดยยึดแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ที่วางไว้
ทุกคนที่เข้ามายังโรงเรียนอัสสัมชัญ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และผ่านจุดคัดกรอง โดยผู้ปกครองนักเรียนและบุคคลภายนอก ที่จะเข้ามาติดต่อหน่วยงานภายในโรงเรียน ให้ติดต่อได้หลังเวลา 08.00 น.สำหรับการจัดการเรียนการสอน จะให้นักเรียนมาเรียนห้องละ 25 คน ตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำหนดไว้ โดยจะแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม เพื่อสลับวันมาเรียนที่โรงเรียน กลุ่มที่ 1 คือนักเรียนเลขที่คี่ และ กลุ่มที่ 2 คือนักเรียนเลขที่คู่ สำหรับวันที่นักเรียนไม่ได้มาเรียนที่โรงเรียน ต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ ตามตารางเรียนปกติพร้อมกับนักเรียนในห้อง ด้วยระบบ Microsoft Teams, AC Online Classroom พร้อมทั้งจัดเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ภายในห้องเรียน และภายในบริเวณโรงเรียน
ส่วนการรับประทานอาหาร จะจัดเหลื่อมเวลาในการรับประทานอาหาร นักเรียนต้องนำกระติกน้ำดื่ม ติดตัวมาโรงเรียน ลดการสัมผัสในการซื้ออาหาร โดยใช้แอพพลิเคชั่นในการชำระค่าอาหาร เว้นระยะห่าง (Social Distancing) ในการนั่งรับประทานอาหาร ล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยสบู่เหลว หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนรับประทานอาหาร พนักงานโภชนาการทุกคนสวมหน้ากากอนามัย Face Shield ถุงมือ ผ้ากันเปื้อน และหมวก ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน ฯลฯ
