svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ดร.รยุศด์" ยกคำกล่าวรัฐบุรุษอาวุโสย้ำเตือนผู้มีอำนาจ

24 มิถุนายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ผู้ก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย"ร่วมรำลึก 24 มิถุนาปฎิวัติสยาม ยกคำกล่าวรัฐบุรุษอวุโสย้ำเตือนผู้มีอำนาจเคารพในเสรีภาพและความเห็นต่าง ระบุ ต้นทุนสูงสุดของนักการเมืองและผู้นำประเทศไม่ใช่การมีอำนาจที่ยั่งยืน แต่คือความชอบธรรม

(24 มิถุนายน 2563) ดร.รยุศด์ บุญทัน ผู้ก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย กล่าวถึงวันครบรอบการปฏิวัติสยาม 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 โดยคณะราษฎร ซึ่งวันดังกล่าวนี้ ถือเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อันทำให้ประเทศสยาม ได้มีรัฐธรรมนูญฉบับแรกทั้งนี้ แม้ตลอด 88 ปีที่ผ่านมา การเมืองไทยจะล้มลุกคลุกคลาน ผ่านการรัฐประหารมาแล้วอย่างน้อย 20 ครั้ง แต่ตนในฐานะที่เป็นประชาชน อยากร่วมกับคนไทยทุกคน รำลึกถึงวันสำคัญนี้เพื่อไม่ให้ถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา รวมถึงอีกหนึ่งบุคคลที่ทรงคุณค่าน่าจดจำ เป็นอีกหนึ่งในคณะราษฎร์ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ครั้งนี้ คือ นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ตนจึงขอยกเอาคำกล่าวที่ครั้งหนึ่งเคยพูดเอาไว้เพื่อเตือนสติเตือนใจผู้มีอำนาจทั้งหลายในบ้านเมืองว่า

"มนุษย์มีเสรีภาพในร่างกายของตน เหตุฉะนั้น ควรที่มนุษย์จะมีเสรีภาพที่จะใช้สมองของตนแสดงความเห็นเพื่อสาธารณประโยชน์" "รัฐธรรมนูญแต่ลำพัง ยังไม่เป็นแบบการปกครองประชาธิปไตยเสมอไป จำต้องระมัดระวังร่างรัฐธรรมนูญ ที่พรางตาปวงชนให้หลงว่าเป็นประชาธิปไตย"ดร.รยุศด์ กล่าวและว่า สิ่งที่รัฐบุรุษอาวุโสท่านนี้เคยกล่าวไว้ไม่เคยตกยุคตกสมัย และเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจในยุคปัจจุบันควรรับฟัง และทำความเข้าใจ เพื่อมิให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นขัดกับหลักการประชาธิปไตย นั่นคือ การเคารพในสิทธิเสรีภาพ และการแสดงออกของประชาชน ไม่มองคนที่คิดและเห็นต่างทางการเมืองเป็นศัตรู

ผู้ก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ตนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ก็อยากเห็นการต่อสู้ทางการเมืองจากนี้ไปเป็นการต่อสู้กันในเชิงหลักการ และในเชิงความคิด ภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรม ใช้ผลงานพิสูจน์ ไม่ใช้วิธีการหรือเครื่องมือที่สกปรกเข้าสู่อำนาจ ไม่ใช้กฏหมายหรือรัฐธรรมนูญสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะต้นทุนสูงสุดของนักการเมืองและผู้นำประเทศไม่ใช่การมีอำนาจที่ยั่งยืน แต่คือความชอบธรรมทางการเมืองที่มาด้วยวิถีทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่การทำรัฐประหารหรือด้วยวิธีการ อื่นๆอย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจึงอยากฝากไปถึงผู้มีอำนาจทั้งหลาย เพื่อย้ำเตือนใจตนเองให้มั่น เพราะวันหนึ่งหากหมดอำนาจลง ท่านและวงศ์ตระกูลจะได้ภาคภูมิใจ และประวัติศาสตร์ก็จะได้จดจำสิ่งดีๆที่ท่านได้ทำไว้ให้กับบ้านเมืองเหมือนที่จดจำนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสท่านนี้ ที่ปัจจุบันยูเนสโกได้ประกาศยกย่องให้เป็น "บุคคลสำคัญของโลก" นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา

logoline