"จตุพร" เชื่อปรับ ครม.ยุ่งขั้นโกลาหล

(23 มิถุนายน 2563) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า คำทำนายของนายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรดังเจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" ซึ่งระบุถึงดวงเมืองไทย ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. จะเกิดอภิมหากลียุคทุกด้าน ทั้งการเมืองเจอมรสุมหนัก เศรษฐกิจทรุด พร้อมเตือนปีหน้าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อคำทำนายของโหรดังคนนี้ เพราะเป็นคนเดียวที่ทำนายว่าเกิดสึนามิที่ภูเก็ตถูกต้องมาแล้ว อีกทั้งในอดีตมีบางสถานการณ์ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงโทรถามโสรัจจะ ซึ่งบอกกับตนว่า จะมีเรื่องในวันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้ ปรากฎว่าเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ตรงตามคำทำนายทั้งนี้ เมื่อนายโสรัจจะ ทำนายดวงเมืองตกเคราะห์ที่สุด จะเข้าอภิมหากลียุด ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. จะเกิดสึนามิทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ โรคระบาด รวมทั้งปี 2564 จะเกิดน้ำท่วมทั้งปี หนักกว่าปี 2554 ดังนั้น อยากแนะนำคนมีหน้าที่รับผิดชอบควรเตรียมหาทางป้องกันไว้ ซึ่งอีก 7 วันข้างหน้าจะเข้าต้นเดือนกงค.แล้ว จะเป็นสิ่งพิสูจน์คำทำนาย 

"แต่คำทำนายนี้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่างๆ โดยเฉพาะทางการเมือง ย่อมเห็นเค้าลางได้ ผมพูดมาหลายวันแล้วว่า เมื่อเยียวยาสิ้นมิ.ย.เป็นเดือนสุดท้าย และก.ค.จะเกิดความโกลาหลกับความอดอยาก แล้วโสรัจจะก็มาทักว่า เกิดอภิมหากลียุดตั้งแต่ต้น ก.ค. เป็นต้นไป ดังนั้น ศาสตร์ทางโหรศาสตร์กับทางการเมืองที่ประเมินโดยไม่มีความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง จึงค่อนข้างผิดพลาดน้อยมาก"นายจตุพร กล่าว
ประธาน นปช. ยอมรับว่า ส่วนตัวไม่สนใจข่าวการปรับ ครม. แต่รู้ว่า สถานการณ์ต่างๆไม่ได้ง่าย ยากกว่าการตั้งรัฐมนตรีครั้งแรกเป็น 100 เท่าไม่ว่าจะมุมใด มีปัญหาทุกด้าน ความพึ่งพอใจไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ถึงพรรคการเมืองเกิดการปเลี่ยนแปลงก็ตาม แต่เป็นการพิสูจน์ศักยภาพ ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศนั้น เกินกว่าการเมืองปกติในปัจจุบันนี้ไปแล้ว ดังนั้น การเมืองขณะนี้กับปัญหาที่จะเกิดขึ้น เมื่อจะปรับ ครม. จึงมีแรงกระเพื่อมแทบทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

"เพราะทุกคนไม่รู้ว่า เมื่อปรับ ครม.หนนี้แล้ว จะมีครั้งหน้าหรือไม่ จึงเกิดโกลาหลขึ้น มีนิ่งเพียงพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียว พร้อมประเมินว่า ในอนาคตนั้น พรรคการเมืองเล็กขนาด 1 เสียง แทบจะไม่เหลืออยู่ในทางการเมืองเลย และพรรคการเมืองถึงจะตั้งง่าย แต่จะอยู่ยากมากขึ้น อีกทั้ง ในระบบเลือกตั้งใบเดียวจะเป็นสิ่งทำให้พรรคการเมืองไม่ได้เสียงเกินครึ่งอีก"
นอกจากนี้ ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวจะอยู่กับไทยอีกนาน ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงยากจะเกิดขึ้น หรือมีค่าเท่ากับศูนย์ ถ้าไม่มีการจับเข่าคุยกันในสังคมแล้ว ก็ไม่มีทางแก้ได้ ดังนั้น คำทำนายของโสรัจจะ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ และฉายานอสตราดามุสเมืองไทยไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เหตุนี้คำว่าอภิมหากลียุคตั้งแต่ก.ค.นี้ จะมองผ่านเลยไปไม่ได้