แกนนำพปชร.ซัดกันนัว ปมย้ายที่ทำการพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชุดรักษาการ ให้ตั้งคณะทำงานศึกษาในรายละเอียดการเตรียมจัดประชุมใหญ่พรรค และแก้ไขข้อบังคับพรรค ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคเป็นประธานนั้น จะมีการพิจารณาแก้ไขข้อบังคับพรรค เพื่อกำหนดเพิ่มตำแหน่งสำคัญของพรรค จากเดิมที่ไม่เคยกำหนดไว้ อาทิ ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค , ผู้อำนวยการพรรค เป็นต้น ซึ่งในส่วนของผอ.พรรคนั้น ที่มีชื่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง จะมานั่งตำแหน่งนี้ มีโดยรายงานว่า จะเพิ่มบทบาทหน้าที่ในข้อบังคับ สถานะเทียบเท่ารองหัวหน้าพรรค ให้รับผิดชอบดูแลส.ส.ของพรรคด้วย ไม่ใช่ทำงานธุรการตามที่เข้าใจ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่มีชื่อนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ในฐานะรองยุทธศาสตร์พรรค มานั่งนั้น มีบทบาทดูแลงานภายในพรรค ส่วนการดีลเรื่องสำคัญกับพรรคร่วมนั้น เป็นหน้าที่ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค และว่าที่หัวหน้าพรรคขณะเดียวกัน จะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรค เพื่อเพิ่มจำนวนของรองหัวหน้าพรรคจากเดิม เพื่อให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยในเบื้องต้น กำหนดไว้ทั้งหมด ประมาณ 8-10 คน ขณะเดียวกัน ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะให้หัวหน้าพรรค ที่ผ่านการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ เป็นคนเลือกรองหัวหน้าฯ หรือ รองหัวหน้าฯ จะต้องผ่านการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่พรรคด้วย จึงได้มอบคณะทำงานชุดนายไพบูลย์ไปพิจารณาหาข้อสรุป คาดว่าในวันที่ 23 มิ.ย. รายละเอียดทุกอย่างจะชัดเจน

ทั้งนี้ ในที่ประชุมกก.บห.ชุดรักษาการ ยังได้หารือถึงการแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อเปิดทางย้ายที่ทำการพรรคจากอาคารปานศรี ไปยังอาคารรัชดาวัน ตรงข้ามศาลอาญา ถ.รัชาภิเษก ซึ่งปัจจุบันพรรคใช้เป็นศูนย์ประชุมส.ส.ของพรรค อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าบรรยากาศในที่ประชุม กก.บห.ชุดรักษาการ แต่ละคนค่อนข้างระมัดระวังในการพูด โดยปล่อยให้การหารือเป็นไปตามระเบียบวาระ 
แต่มีช่วงหนึ่ง บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด เมื่อเกิดวิวาทะระหว่างแกนนำคนสำคัญของพรรค เรื่องการย้ายที่ทำการพรรค เมื่อแกนนำพรรคคนหนึ่ง ให้ความเห็นว่าต้องดูเรื่องข้อกฎหมาย และมีบางคนในที่ประชุมอยากให้รีบย้ายที่ทำการ จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าอาคารปานศรี เดือนละเป็นหลักล้านบาท แต่ยังติดปัญหาว่าที่ทำการพรรคแห่งใหม่ คืออาคารรัชดาวัน ยังตกแต่งไม่แล้วเสร็จ และแกนนำบางคนมีข้อสงสัยว่าพรรคต้องรับผิดชอบค่าเช่าอาคารดังกล่าวด้วยหรือไม่ ทำให้แกนนำคนหนึ่งตอบโต้กลางที่ประชุมว่า "ถ้าไม่พอใจ หรือมีที่ใหม่ ก็ไปหาที่ใหม่"