"น้ามัน"...การได้เล่นฟุตบอลทีมบ้านเกิด สำหรับผมมันคือความสุข

"ภรรยาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เรื่องที่จะไปแข่งฟุตบอล ไม่ได้เตือนที่อายุมาก ทำไมไม่เลิก คงเห็นว่านั่นคือสิ่งที่ผมชอบ เรื่องที่ผมจะเล่นให้กับสุราษฎร์ธานี ซิตี้ เชื่อว่าทางทีมคงไม่ได้ทำเป็นกระแส หรือต้องการสร้างสีสัน ฟุตบอลตัดสินกันที่ผลแพ้-ชนะ การที่สโมสรประกาศที่จะส่งผมลงสนาม หมายถึงต้องประเมินสถานการณ์แล้ว และเห็นว่าการลงสนามของผม จะเป็นผลดีต่อเกมจึงส่งลงไป ในชีวิตของการเป็นนักฟุตบอลด้วยอายุขนาดนี้ ( 55 ปี ) การได้เล่นฟุตบอลให้ทีมบ้านเกิด สำหรับผมมันคือความสุขที่สุดแล้ว ที่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลชาวสุราษฎร์ฯ ในชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล นอกจากการได้รับใช้ชาติที่ถือเป็นเกียรติสูงสุด การได้เล่นเพื่อจังหวัด ก็เป็นอีกความภาคภูมิใจ"

อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ วัย 55 ปี ปราการหลัง สุราษฎร์ธานี ซิตี้ ทีมฟุตบอลในไทยลีก 3 กลุ่มภาคใต้ ที่กำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ในวงการฟุตบอลระดับภูมิภาค เมื่อต้นสังกัดของเขาประกาศ ที่จะส่งอดีตทีมชาติไทยลงสู่สนาม ในฐานะผู้เล่นประจำฤดูกาล 2020 -2021 ที่จะกำลังจะเปิดฉากฟาดแข้ง ในเดือนตุลาคม นี้ ให้สัมภาษณ์กับ " เนชั่น ทีวี"

แม้ว่าอายุจะก้าวเข้าสู่เลข 5 อย่างเต็มตัว แต่เส้นทางชีวิต ของ อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ ที่เข้าสู่วงการฟุตบอลนับตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน แยกกันไม่ออก ฟุตบอลคือส่วนหนึ่งของชีวิต สำหรับผู้ชายที่คนในวงการฟุตบอลคุ้นเคยที่จะเรียกเขาว่า "น้ามัน" โดยเจ้าของเสื้อหมายเลข 2 ที่จะลงเล่นในตำแหน่งแผงหลัง ให้กับ สุราษฎร์ธานี ซิตี้ ประจำฤดูกาล 2020 -2021 ผ่านประสบการณ์เล่นให้กับทีมฟุตบอลอาชีพ นับตั้งแต่ ทหารบก , ธนาคารกรุงเทพ, สุราษฎร์ธานี , นครศรีธรรมราช ,แพร่ จนมาถึง สุราษฎร์ธานี ซิตี้ ทีมในไทยลีก 3

ฤดูกาลที่ผ่านมา ( 2019 ) อภิชาติ มีชื่ออยู่ในทีมสุราษฎร์ธานี ซิตี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ลงสนาม ต่างกับฤดูกาลนี้ที่สโมสรฯประกาศชัดเจน ที่จะส่งผู้เล่นวัย 55 ปี ลงทำหน้าที่ " ผมตอบไม่ได้ว่า จะยืนระยะเวลาในสนาม ได้ครบ 90 นาที หรือไม่ ทุกอย่างให้ขึ้นอยู่กับหัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือ เฮดโค้ชที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ หากประเมินแล้ว คิดว่าผมพร้อมที่จะลงตั้งแต่นาทีแรก ก็ไม่เป็นปัญหา ผมเต็มที่แน่นอน ธรรมชาติของทุกกีฬา การได้ลงไปทำหน้าที่ในเกม นั่นคือสิ่งที่นักกีฬาทุกคนต้องการ รวมทั้งผมที่อยากลงทำหน้าที่เช่นกัน อยากจะกลับไปอยู่ในบรรยากาศของการเล่นฟุตบอล และมีกองเชียร์ และที่น่าตื่นเต้นก็คือการได้เล่นในบ้านเกิดของเราเอง แน่นอนผมตื่นเต้นนะ มันเหมือนกับวัยหนุ่มที่กลับคืนมา ก็รอวันนั้น วันที่เปิดฤดูกาล ไม่ว่าจะได้ลงกี่นาที สิ่งที่ผมให้ความมั่นใจได้ก็คือ เต็มที่อย่างแน่นอน กับหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมาย"

"ฟุตบอลกับผม อย่างที่บอกมันคือสิ่งที่แยกกันไม่ออก ที่ผ่านมาผม อาจจะหายไปจากวงการฟุตบอลอาชีพ แต่ผมก็ไปมีกิจกรรมกับฟุตบอลเดินสาย คือเดินสายทั้งในพื้นที่ภาคใต้ หรือ แม้แต่ภาคกลางผมก็เดินสายไปแข่งขันฟุตบอลด้วย ผมรักษาร่างกายอยู่ตลอด เพราะด้วยพื้นฐานของการเป็นนักกีฬา ทำให้ต้องใส่ใจต่อสุขภาพมากกว่าปกติ ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม สิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายผมหลีกเลี่ยงหมด ต้องการให้สุขภาพพร้อมจริงๆ สิ่งที่ผมทำในขณะนี้ คือการพิสูจน์ให้เห็นว่า ชีวิตนักฟุตบอลมันไม่ได้จบแบบหมาล่าเนื้อ หรือมีช่วงเวลาอันสั้น ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา ถ้ามีวินัยที่ดี ใส่ใจต่อการฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด เรายังมีเวลาที่จะไปต่อกับชีวิตนักฟุตบอลได้อย่างแน่นอน" อภิชาติ ระบุ